Daisypath Anniversary tickers

รอบรั้ว พุทธศาสนา ประโยชน์ของการบริหารจิตและเจริญปัญญา

Saturday, February 9, 2008


หลังจากครูได้นำบทความจากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์มาให้อ่าน ก็มาพูดถึงเรื่องผลดีของการบริหารจิต และเจริญปัญญา ตามแบบเรา ซึ่งต่างชาติเขาจะมองแค่ นั่งสมาธิ ทำสมาธิ เห็นมั้ยคะ แม้แต่การเรียกการนั่งสมาธิก็ยังแตกต่างกัน ฝรั่งพูดง่ายๆค่ะ Meditation คำเดียวจบ ถ้ายิ่งได้อ่านบทความของเขาที่เขาสอน จะยิ่งง่ายกว่าเข้าไปอีก ลองอ่านดูค่ะ นี่ก็จาก Time เหมือนกัน

How to Meditate
You can teach yourself in a matter of minutes by following a few simple steps
Posted Sunday, July 27, 2003

1. FIND A QUIET PLACE (หาที่เงียบๆซักที่ มันง่ายที่จะมีสมาธิ)

If it helps, turn out the lights. The fewer distractions you have, the easier it will be to concentrate
2. CLOSE YOUR EYES (หลับตาลง เพื่อที่จะไม่ให้มีสิ่งเร้าเข้ามากระทบ)

The idea is to shut out the outside world so your brain can stop actively processing information coming from the senses
3. PICK A WORD, ANY WORD (หาคำที่จะกล่าวบริกรรม สักคำ อะไรก็ได้)

Find a word or phrase that means something to you, whose sound or rhythm is soothing when repeated
4. SAY IT AGAIN AND AGAIN (แล้วก็ท่องบริกรรมไป เพื่อช่วยให้มีสมาธิ)

Try saying your word or phrase to yourself with every outbreath. The monotony will help you focus


ง่ายเสียเหลือเกิน ใช่มั้ยคะ เอาละทีนี้ก็เข้ามาบทเรียนของเราเลยค่ะ "ประโยชน์ของการบริหารจิตและเจริญปัญญา"


**เรียนหนังสือได้ดี เพราะมีความจำแม่นยำ

**ทำสิ่งใดไม่ค่อยพลาด เพราะมีสติสัมปชัญญะ

**สามารถทำงานได้มาก และมีประสิทธิภาพ

**ทำให้โรคภัยบางอย่างหายไปได้

**ทำให้เป็นคนอารมณ์เย็น มีความสุขใจ และมีผิวพรรณผ่องใส

**ทำให้อยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข

**สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างเหมาะสม

**นอนหลับสนิท ไม่ฝันร้าย และอื่นๆอีก


มีบทความอีกมากค่ะที่นายแพทย์ชาวต่างประเทศเขียนบทความเอาไว้ถึงผลพลอยได้จากการนั่งสมาธิ ซึ่งก็ตรงกันกับที่เราเรียนอยู่ค่ะ เพราะฉนั้น เราเองซึ่งเป็นชาวพุทธอยู่ควรปฏิบัติ นั่งสมาธิ แล้วก็มีจิตใจที่มั่นคง ไม่วอกแวก ไปกับอะไรๆ ที่เข้ามากระทบกับ หู ตา จมูก กาย ใจ ของเราค่ะ

Posted by ครูพเยาว์ at 11:03 AM