Daisypath Anniversary tickers

รอบรั้ว บ้านนายกอภิสิทธิ์

Wednesday, March 17, 2010


ครูไม่ได้เขียนเรื่องอะไรมาหลายเดือน ทิ้งไปนาน นี่ถ้าเราทิ้งบ้านไปนานขนาดนี้ ปลวกคงจะดีใจละค่ะ วันนี้พอมีเวลาก็เลยมาเคาะพื้นบ้านหน่อย ที่จริงแล้วที่ไม่ได้เขียนมานานขนาดนี้ เพราะงานยุ่งมากค่ะ ทั้งที่โรงเรียนเอง แถมพ่อบ้านไปสร้างบ้านสวน เผื่อจะได้ไปอยู่ยามเกษียณ เป็นการเพิ่มงานเข้ามาอีก บ้านตอนนี้ก็ใกล้จะเสร็จแล้วละค่ะ

วันนี้ได้นั่งดูทีวี ดูข่าวพี่น้องเสื้อแดงเอาเลือดไปเทที่บ้านของท่านนายก ดูเลือดที่นองพื้นแล้วสะท้อนใจค่ะ นี่มันไม่ใช่ลักษณะของคนไทยที่เรารู้จักมาก่อน โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็เลยเปลี่ยนไป ดูแววตาของคนที่มา ฟังคำพูดแล้ว ครูว่าเรานี่เหมือนคนไม่มีศาสนาเข้าทุกวัน ขาดเมตตา ขาดความรัก ไม่ว่ารักคนไทยด้วยกัน หรือรักชาติ ศาสนา เพราะทุกอย่างที่แสดงออกมาล้วนตั้งใจที่จะทำลายห้ำหั่นกัน

บ้านท่านนายก มีใครบ้างคะ คงจะอยู่กัน 4 คน พ่อ แม่ และลูกตัวเล็กๆ 2 คน เมื่อเทียบกับคนที่ไปนับร้อยนับพันคน ที่หน้าตาดูแล้ว (จากทีวี) ล้วนแต่ไม่เป็นมิตร น้ำเสียงที่ฟังแล้ว สำหรับเด็กๆ ใจคงจะตุ้มๆต่อมๆ และคงจะจดจำภาพและเสียงนั้นไปตลอดชีวิต จิตใจเขาจะเป็นอย่างไร คงไม่มีใครนึกถึง เพราะทุกคนล้วนแต่นึกถึงแต่เรื่องของตัวเอง กิจกรรมของตัวเอง หรือผลประโยชน์และอำนาจที่ตัวเองอยากได้ อย่างนั้นแหละค่ะ คงไม่มีใครนึกถึงเรื่องความรู้สึกของเด็กๆตัวเล็กๆ

อยากบอกท่านนายกอภิสิทธิ์ค่ะ อย่าโกรธคนพวกนั้นเลย ครูเองถึงอยู่ไกล ก็เหมือนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เพราะนั่งติดจอทีวีอยู่ในนาทีที่เขาเทเลือดอยู่ มันบอกไม่ถูกค่ะ ว่ารู้สึกอย่างไร มันปนเปไปหมด สมเพช เวทนา ได้แต่ผะอืดผะอมเพราะต้องฝืนใจพอสมควรที่จะมองเลือดละเลงทาเททั่วพื้นมากขนาดนั้น ที่ครูยกคำพูดว่า “อย่าโกรธ” ขึ้นมา เพราะครูไปวัดบ่อยๆ ทางขึ้นวัดที่ครูไปนี่ จะมีป้ายไว้ตลอดเลยค่ะ “อย่าโกรธ” ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ไม่ใช่มีแค่ป้ายเดียว ทำให้เราเดินไป คิดไปด้วย ทำไมหลวงพ่อถึงลงทุนเตือนกันขนาดนั้น พอนานๆเข้า ก็เข้าใจค่ะ ถ้าเราไม่โกรธใครเป็น เราเองนั่นแหละที่จะเป็นสุข เพราะใจเราไม่ได้หวั่นไหวอะไร เมื่อมีอะไรๆมากระทบใจเรา คนที่ทำต่างหาก ที่ตกอยู่ในกองทุกข์

ภาพจากอินเทอร์เน็ต

Posted by ครูพเยาว์ at 3:00 PM