Daisypath Anniversary tickers

รอบรั้ว สะพานมัฆวานรังสรรค์

Friday, June 6, 2008


เมื่อไม่กี่วันมานี้ ได้เห็นแหม่มต่างชาติ ที่ขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีทางการเมืองภาคประชาชน ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนิน ที่มีคนพูดถึงกันทั่วๆไปในขณะนี้ ครูจะไม่พูดเรื่องการเมืองในข้อเขียนของครู ซึ่งที่จริงแล้ว คนเราที่เกิดมาเดินบนผืนแผ่นดินไทย จะต้องใฝ่รู้ ใฝ่หา ว่า…ที่เขามาตั้งเวทีประท้วงอยู่นั่น เขามาทำไม ต้นสายปลายเหตุเป็นอย่างไร ทำความเข้าใจ ด้วยใจที่เป็นกลางเสีย ต้องเป็นคนมีเหตุ มีผลบ้าง ก็จะดี สมกับเป็นชาวพุทธ ที่เรียน ท่อง กาลามสูตรมาแล้วเอาละ เป็นอันว่า ครูได้ฟังแหม่มชาวออสเตรเลียคนนี้ร้องเพลงแล้ว ก็ต้องบอกว่า “ขนลุก” กับความมีชีวิตชีวาของเสียงนั้น และที่บรรยายด้วยความทึ่ง ประหลาดใจในบุญญาธิการของในหลวงเรา กับแผ่นดินของเรา กับไพร่ฟ้าของพระองค์ แหม่มคนนี้คือ Kelly Newton-Wordsworth ชื่อเธอเขียนอย่างนั้น เธอ...ไม่ใช่นักท่องเที่ยวที่แค่ผ่านมา เที่ยวเมืองไทย แต่เธอทำงานที่ยิ่งใหญ่ มีชื่อเสียง ที่คนทั่วโลกได้ยินเธอมานับพันล้านคนทั่วโลก เธอเข้ามาเมืองไทย เมื่อปี 2550 แต่งเพลงสรรเสริญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา เพราะเธอ..ประทับใจ..ในบทบาทของพระองค์ ที่ดูแลพสกนิกรของพระองค์....ในขณะที่คนไทยส่วนหนึ่ง สำลักวัฒนธรรมตะวันตก สำลักกับสิทธิมนุษยชนหรืออะไรก็ตาม แล้วก็ออกมาบอกว่า ไม่ยืนเคารพ (เพลงสรรเสริญพระบารมี) ไม่ใช่อาชญากร และก็ไม่มีใครสนใจอะไร ในเรื่องทำนองนี้พ่อบ้านของครูบอกว่า ถ้าใครเห็นการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่เสา แล้วน้ำตาไม่ไหล คนๆนั้นนับว่าใจแข็ง ใจหินพอสมควร นี่ไม่ใช่ในตอนที่เราต้องร้องเพลงชาติตอน 8 โมงเช้านะคะ ต้องในกรณีย์พิเศษอย่างนี้ค่ะ

ในสมัย 40 ปีที่แล้ว อุดรของเราเป็นฐานทัพอเมริกัน ในฐานทัพก็ต้องมีเสาธง สำหรับเชิญธงชาติขึ้น แต่ที่ฐานโนนสูง ค่ายรามสูรย์ ไม่มีธงไทยค่ะ คนไทยที่อยู่ในที่นั้น ต้องยืนเคารพธงชาติอเมริกัน ฟังเพลงชาติอเมริกันทุกๆเช้า จนแทบจะร้องคลอได้ คนไทยที่ทำงานอยู่ในนั้น ต่างก็รวมใจ ร่วมกัน ขอให้มีการเคารพธงชาติไทยด้วย ซึ่งก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร และผลสุดท้าย ก็เป็นผลสำเร็จ มีการเปิดเพลงชาติไทย เชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสา...ไม่ต้องเดาค่ะ ว่าทุกคนที่ได้ฟังรู้สึกอย่างไร เสียงเพลงที่เปล่งจากปาก...ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทยนั่น ไม่ค่อยเป็นเพลงซักเท่าไหร่ เพราะมันปนกับเสียงสะอื้น ที่ตื้นตัน ที่ได้เห็นธงไทยขยับขึ้นสู่ยอดเสา เลือดไทยขณะนั้นมันสูบฉีดแรงค่ะทีนี้ มาดูซิว่าแหม่มเคลลี่ มองในหลวงเราอย่างไร ดูจากเนื้อร้อง และคำแปลที่กระท่อนกระแท่นพอสมควร แต่ก็อยากให้ลูกๆ ถ้าเผื่อมีความรู้ทางด้านภาษาดี ได้หัดแปล หัดเกลาภาษาให้สละสลวยกว่านี้ เพลงนั้นชื่อ
“Long live the king of Thailand”

Ever since I saw the face of this man
หลังจากที่ฉันได้เห็นพระองค์ท่าน

The king of Thailand, The king of Siam
กษัตริย์ของประเทศไทย กษัตริย์ของประเทศสยาม

I fell in love with his soul loves this land
ฉันก็หลงรักในความรักที่ท่านมีให้แก่แผ่นดินของท่าน

It's in his eye, it's in his heart, it's in his hands
เห็นได้จากสายตาของท่าน จากหัวใจของท่าน และจากน้ำมือของท่าน

He is a husband, a father and a king
ท่านเป็นสามี เป็นพ่อ และเป็นกษัตริย์

A great photographer, musician so many things
เป็นช่างภาพผู้ยิ่งใหญ่ เป็นนักดนตรี และอีกมากมาย

The way he lives his life is something to be hold
การดำเนินชีวิตของท่านมันเป็นสิ่งที่ควรยึดถือ (ดำเนินตาม)

His grace, his wisdom, an example to the world
ความสง่า หลักแหลมลึกซึ้ง เป็นตัวอย่างแก่ชาวโลก

Long live the king of Thailand
Long live the king of Siam
Long live the king of Thailand
Long live the king of Siam
ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ
..
And in the time when the rains came flooding down
และเมื่อถึงเวลาที่ฝนตกน้ำหลาก

He saved the city with a building of the dam
ท่านก็ช่วยเหลือเมืองไว้ด้วยการสร้างเขื่อน

In time of conflicts, he has always been there
ในเวลาเกิดความขัดแย้งกัน ท่านก็อยู่ตรงนั้นเสมอ

To stop the fighting just like the father who really cares
เพื่อช่วยหยุดการต่อสู้เช่นพ่อที่ห่วงใยลูกๆ

Long live the king of Thailand
Long live the king of Siam
Long live the king of Thailand
Long live the king of Siam
ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ
..
I watch in wonder at the things he understands
ฉันเฝ้ามองด้วยความอัศจรรย์ ในทุกสิ่งที่ท่านนั้นเข้าใจ

His love for his people, his love for this land
ในความรักของท่านต่อประชาชน และต่อแผ่นดินนี้

His work in agriculture, he is one of a kind
งานด้านเกษตรของท่าน หาใครมาปรียบมิได้

His vision for the future way ahead of their time
วิสัยทัศน์ของท่านนั้นก้าวล้ำสู่อนาคต

Long live the king of Thailand
Long live the king of Siam
Long live the king of Thailand
Long live the king of Siam
ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ
..
อ้างอิง: http://www.kellynewtonwordsworth.com.au/
รูปภาพ:http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000065049

Posted by ครูพเยาว์ at 7:12 PM

รอบรั้ว ครอบครัวอบอุ่น

Monday, June 2, 2008


ลงไปใต้ครั้งนี้ เพื่อที่จะไปอยู่กับคุณย่า เพราะหลายเดือนแล้ว ที่น้องคนที่ดูแลย่าประจำเขาไปเมืองนอก เพื่อไปเยี่ยมหลานที่เพิ่งคลอดอยู่ที่โน่น อันที่จริงถึงไม่ลงไป ก็ยังมีคนอื่นดูแลอยู่แล้วค่ะ แต่เราเองก็ต้องทำหน้าที่นี้ด้วยคนหนึ่งเหมือนๆกัน จำเป็นที่ต้องลงไป นี่คือลักษณะของครอบครัวคนไทยค่ะ

อากาศที่ใต้ดีมากค่ะ ไม่ร้อนมากนัก ถึงแม้ว่าแดดจะเผา คนใต้ถึงผิวคล้ำกว่าคนภาคอื่นๆ อาจเพราะเขาเดินกลางแดดได้อย่างสบาย ไม่ร้อน เพราะลมพัดตลอด และเพราะเดินตากแดดได้นี้เอง ผิวก็คล้ำได้ง่ายๆ ครูสันนิษฐานเอาเองนะคะ แต่ระยะที่อยู่กับคุณย่า ได้คุย ได้ฟังเรื่องต่างๆหลายเรื่อง มีเรื่องที่ครูฟังแล้ว ทึ่ง....คือคำทายอะไรเอ่ย ที่คนโบราณอย่างคุณย่าทวดเคยถามเล่นๆกับลูกหลาน ที่คุณย่ายังจำเอามาทายเล่นได้ อยากให้ลองฟังดูค่ะ

คำทายแรก...อะไรเอ่ย
อัฐิ ต่างตะโจ
แปดเท้าโท เศียรเว้น
คงคา เป็นที่เล่น
ปฐวี เป็นที่นอน

ดูแล้ว คนเก่าๆของเรานี่ ภาษาไทยไม่ใช่ว่าจะประมาทได้นะคะ เห็นนุ่งผ้าถุง ผ้าซิ่นอยู่กับบ้าน คุณย่าคุณยายเขารู้นะ ว่าคำนั้นคำนี้หมายความว่าอย่างไร...เราเองต่างหากที่ต้องทึ่ง ต้องงงกับคำทายเล่นๆเหล่านั้น...เอาละ รู้คำตอบแล้วยังคะ ถ้ายังนึกไม่ออก เอาคำทายที่สองมาลับสมองเล่นอีกคำ

อะไรเอ่ย....
สองตีนชี้ฟ้า
ผันหน้าสู่ดิน
น้ำท่าไม่กิน
แผ่นดินไม่เหยียบ

คำทายนี้คนอื่นๆอาจทายใกล้เคียงกัน แต่ฟังแล้วก็งงๆกับคำทาย ของคุณย่านี่ถือว่าฟังจากปากกันเลย ไม่ผิดหรือลอกมาผิดๆแน่ เอาแค่เบาะๆ สองคำทายก็พอ แต่ที่อยากให้ดูคือลักษณะการใช้ภาษา จะเป็นคำคล้องจองกัน เป็นคำกลอนที่มีบทรับบทส่งพร้อมเสร็จ สมกับไทยแท้แต่โบราณจริงๆ สมัยนี้ครูเองก็ยังมองไม่เห็นว่าเราจะรักษาความเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน เหมือนรุ่นปูย่าตาทวดได้อย่างไร เพลงในสมัยนี้เป็นตัวอย่างได้เลย ฟังๆแล้ว ก็ยังหาคำคล้องจองไม่ได้ ร้องก็ไม่เพราะเสนาะหูอะไรสักนิด ตะโกนกันมากกว่า ยิ่งพวกแรพโย่ ฟังแล้วฟังอีกก็ยังฟังไม่ออกเลยว่าเป็นเพลงหรือคำบ่น

(คำตอบ คำทายแรก Crab คำทายที่สอง Bat)

Posted by ครูพเยาว์ at 9:05 AM