Daisypath Anniversary tickers

รอบรั้ว การ์ตูน ผีซ่าส์กับฮานาดะ

Tuesday, July 31, 2007

ในบ้านของครู มีหนังสือการ์ตูนมากค่ะ ทุกคนที่บ้านอ่านหนังสือการ์ตูนกันเป็นนิสัยไปเลย น้องชายของครูทั้งสองคน อ่านการ์ตูน แม้จนบัดนี้ก็ยังไม่ขาด ลูกชายของครูก็ได้อาศัยอ่านต่อจากน้าชาย ส่งมาให้อ่าน เขาแอบซื้ออ่านเองบ้าง ผสมผเสเอามารวมกัน หนังสือการ์ตูนก็เพิ่มขึ้นเต็มบ้าน

มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ครูได้ฟังพ่อบ้านพูดถึง คือเรื่องที่ตัวการ์ตูนในเรื่องลำเลิกบุญคุณที่เขายังมีต่อพ่อแม่ ทั้งๆที่เขาเองเป็นเด็กดื้อ โดนตีจนนับครั้งไม่ถ้วนมาแล้ว เด็กคนนี้ชื่อ ฮานาดะ ในหนังสือพูดถึงนิสัยใจคอฮานาดะอย่างไร อยากให้ฟังดูค่ะ....เขาเป็น เด็กซน เด็กตัวแสบ เด็กดื้อ ฮานาดะ อิจิโระ เป็นที่เอือมระอาของชาวบ้านทุกคน วันหนึ่งขณะที่ก่อเรื่องแกล้งคน ก็ได้ขี่จักรยานหนี แต่เกิดอุบัติเหตุถูกรถชน...อิจิโระรอดมาได้ พร้อมแผลเป็นเย็บ 9 เข็มที่หัว และมีของแถมมาอีก เป็นความสามารถที่น่ากลัว.....


ที่น่ากลัวสำหรับเขา และเด็กทุกคนก็คือ เขาเห็นผีได้...ผีจะติดตามเขา เพราะสามารถติดต่อกับเขาได้ และขอความช่วยเหลือ ซึ่งในหนังสือก็มีหลายตอนที่เขาต้องไปช่วยผี แต่ก็มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่ผีของเด็กเข้ามาให้อิจิโระช่วย คือช่วยไปบอกกับแม่ ว่าอย่าโศกเศร้าไปมากนัก จนจมอยู่ในกองทุกข์ตลอดเวลา ซึ่งเขาสัญญาว่าจะกลับมาเกิดเป็นลูกแม่อีก ถ้าแม่มีชีวิตอย่างแจ่มใสอีกครั้ง ซึ่งในที่สุดแม่เขาก็ได้กอดลูกอีกครั้งในร่างทรงของอิจิโระ และสามารถใช้ชีวิตแบบปกติต่อไป..ก็น่าอ่านดีค่ะ ส่วนอิจิโระ ก็กลับบ้านไป แต่ก็เนื่องจากที่ไปช่วยผีนาน แม่ถึงเขกหัวเสียจนโน อิจิโระก็เถียงแม่ ว่าการที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขานั่นน่ะ เป็นลูกกตัญญู จะมาทำโทษเขาได้อย่างไร ซึ่งแม่ของอิจิโระไม่เข้าใจในเรื่องนี้ แต่อิจิโระเข้าใจดี ว่าแม่ที่สูญเสียลูกไปแล้วนั่นมีความรู้สึกอย่างไร มีความเศร้าโศกขนาดไหน เพราะได้เจอะเจอเหตุการณ์มาแล้ว รูปที่ครูเอามาให้ดูเป็นฉากจบในตอนนี้ค่ะ

เราจะได้ยินข่าวอยู่ทุกปีค่ะ ว่ามีเด็กฆ่าตัวตาย เวลาไม่ได้ดังใจ เช่นสอบเข้ามหาวิทยาลัยดังๆไม่ได้ สร้างความเจ็บปวดให้กับพ่อแม่ คนที่อยู่ข้างหลัง อิจิโระนี่เป็นเด็กที่เกเรสุดๆก็จริง แต่ก็เข้าใจความรักของแม่ที่มีต่อลูก ไม่ได้บอกให้ลูกๆต้องเกเรนะคะ แต่อยากบอกให้ลูกๆรู้ตัวตลอดเวลาว่า อย่าทำความเสียใจให้กับพ่อแม่ นั่นคือการตอบแทนต่อความรักของพ่อแม่ส่วนหนึ่งแล้วค่ะ

Posted by ครูพเยาว์ at 4:56 PM