Daisypath Anniversary tickers

รอบรั้ว ความผูกพัน

Monday, June 25, 2007

ความรู้สึกเดิมๆกลับคืนมาอีกครั้ง เมื่อลูกคนเล็กต้องออกจากบ้าน ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น มันไม่ได้ต่างกันเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อลูกคนโตออกไปเรียนต่อมี่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ภูเก็ต เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ความผูกพันของลูกที่ต้องอยู่ห่างบ้าน ห่างพ่อแม่ เป็นลูกที่ไม่เคยจากไกล ครั้งนั้นเมื่อเห็นน้ำตาของลูกคนโต ที่แอบร้องให้ เพราะความอ้างว้างจะเข้ามาเยือน มันบั่นทอนหัวใจของพ่อแม่ รู้สึกว่าใจมันสลาย เช่นนั้นจริงๆ แต่ก็ต้องทำใจ เพราะความก้าวหน้าในการเรียน ความก้าวหน้าในชีวิตยังรออยู่ เด็กทุกคนต้องไปในวิถีนั้นทั้งหมด ที่พูดมานี้ก็เพื่อให้กำลังใจกับพ่อแม่ ว่าต้องตัดใจนะ กับความผูกพันที่มีอยู่ เพื่อความก้าวหน้าของลูก ทุกๆปีที่โรงเรียนอนุบาล เราจะเห็นลูกตัวเล็กๆ เข้ามาครั้งแรก เจ้าตัวน้อยๆ ก็ร้องไห้ อยากตามกลับบ้าน บางทีก็เห็นน้ำตาของแม่ แต่ก็ตัดใจได้ในที่สุด และแล้ว เมื่อเราผ่านช่วงวิกฤติทางอารมณ์นี้ออกไปได้ เหตุการณ์มันก็จะเป็นปกติไป ทุกคนก็สำเร็จสมกับความต้องการไป
พ่อแม่ดีใจ ที่ลูกได้มีความก้าวหน้าในการเรียน ลูกก็จะมีอนาคตที่ดี
ทุกอย่างมันเป็นการสอนให้เราไม่ให้เห็นแก่ตัวจนลืมความก้าวหน้าของลูกและครอบครัว และไม่ว่าในเรื่องใดในสังคมก็เหมือนกัน เพื่อความก้าวหน้าของสังคมแล้ว ต้องตัดความผูกพันซึ่งมันเป็นเหมือนกับว่ามันเป็นเส้นด้ายที่บางแนบติดกับความเห็นแก่ตัว ดังนั้นจึงต้องตั้งสติให้ดี คิดให้เป็น ถ้ามีแม่คนไหนสักคนคิดว่าต้องเอาลูกอยู่กับตัว ไม่ล่ะ ไม่ยอมให้ไปไกล ไม่ยอมตัดความผูกพัน ผลสุดท้ายลูกนั่นแหละจะเป็นคนได้รับผลเสีย ตัดใจเสียเถอะค่ะ กับความผูกพัน ทำใจให้กว้างๆ ใจเย็นๆ เมื่อทำได้ สักหน่อยก็จะเห็นว่า ลูกนั่นเองแหละ จะเป็นคนไม่ค่อยอยากกลับบ้านเอง เขาจะไปเจอสังคมใหม่ ชีวิตใหม่ เราเองก็จะดีใจ ยินดีกับเขาในตอนนั้น อย่างลูกคนโตตอนนี้ อยู่ภูเก็ต เมื่อเขามาเยี่ยมบ้านตอนปิดเทอม ตอนกลับไป เขาก็ไม่ได้มีอาการเหมือนเมื่อตอนต้นๆ ดูค่อนข้างจะดีใจเสียอีก

Posted by ครูพเยาว์ at 10:18 PM