Daisypath Anniversary tickers

รอบรั้ว ทางเดินขึ้นวัด

Saturday, September 25, 2010

เอเสว มคฺโค นตฺถญฺโญ
ทสฺสนสฺส วิสุทฺธิยา
เอตญฺหิ ตุมฺเห ปฏิปชฺชถ
มารสฺเสตํ ปโมหนํ


มีทางนี้เท่านั้น ไม่มีทางอื่น
ที่จะนำไปสู่ความบริสุทธิ์แห่งทัศนะ
พวกเธอจงเดินตามทางนี้เถิด
ทางสายนี้พญามารมักเดินหลงเสมอ


This is the only way;
None other is there for the purity of vision.
Do you enter upon this path,
Which is the bewilderment of Mara.

ครูชอบธรรมบทตอนนี้มาก เคยคิดเสมอว่า จะทำเป็นป้าย เขียนธรรมบทบทนี้ไว้ตามทางขึ้นวัด ด้านหน้าบ้านสวนของครู จะทำเป็นภาษาไทย อังกฤษและจีน สำหรับภาษาจีนนั้น ครูใช้ Google Translate แปลไว้แล้ว แต่ก็ไม่ไว้ใจ เลยส่งธรรมบทอันนี้ให้กับพระจีนที่อยู่ไต้หวันที่พ่อบ้านครูรู้จัก และยังติดต่อกันเสมอให้แปลให้ ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ ขาลงจากวัดก็น่าจะทำป้ายทำนองนี้ด้วย แต่ให้อยู่ในด้านตรงกันข้ามกับป้ายแรก

วาจานุรกฺขี มนสา สุสํวุโต
กาเยน จ อกุสลํ น กยิรา
เอเต ตโย กมฺมปเถ วิโสธเย
อาราธเย มคฺคํ อิสิปฺปเวทิตํ ฯ

ครูว่าน่าจะสวยแล้ว ซึ่งอันที่จริงทางที่พระพุทธเจ้าสอนเอาไว้คือ มรรคมีองค์8 ซึ่งเป็นทางสายหลักที่ท่านทรงแนะเอาไว้ อย่างไรก็ตามในธรรมบท คำที่ทำให้ครูตาเบิกโพลงก็คือคำว่า “ทางสายนี้พญามารมักเดินหลงเสมอ” ทางเข้าวัดของหลวงปู่อยู่หน้าบ้านของครูเอง!!! (อันที่จริงก็ผ่านมาทุกบ้านนั่นแหละ) แต่คนที่เดินทางไปวัดนี้ ถือว่ามาถูกทางแล้ว

ทีนี้มาถึงทางขึ้นวัดนาหลวง (อภิญญาเทสิตธรรม) ที่อ.บ้านผือ จ. อุดรธานี ตอนนี้เป็นถนนคอนกรีตแล้ว ตั้งแต่ปากทางถนนสายหลักถึงประตูวัดเลย จากที่เคยเดินลุยโคลนกันมา ที่ครูเคยเขียนบรรยายถึงความลำบากเอาไว้ มาบัดนี้ไม่ต้องมาแบบผจญภัยอีกต่อไป แต่ว่าในอนาคตก็ต้องคอยดูกันอีก เพราะทุกอย่างช่างไม่เที่ยงแท้แน่นอนเลยจริงๆ เป็นอนิจจัง ที่ครูได้เห็นในตอนนี้ก็มีหลายช่วงที่ยังต้องซ่อมกันอีก ซึ่งก็มีนับ 10 จุด ที่เริ่มเห็นรอยแตก แต่อย่างไรก็ตามก็ยังดีกว่าที่จะลุยโคลนในหน้าฝน สูดฝุ่นแดงในหน้าร้อน ขอชวนให้ทุกคนมาฟังธรรมของหลวงปู่ทองใบ ที่มีประจำทุกวันเสาร์ที่สองของเดือนกันนะคะ