Daisypath Anniversary tickers

รอบรั้ว การเมือง เรื่องศักดิ์ศรีของประเทศ

Friday, September 24, 2010


ครูตั้งใจตั้งแต่ต้นว่าจะไม่เขียนเรื่องการเมือง จะพูดแต่เรื่องประชาธิปไตย ศาสนา ไม่เอาเรื่องหนักๆมาเขียน แต่ปัจจุบันดูท่าจะเลี่ยงไม่ได้ เราทุกคนต้องมีเรื่องเกี่ยวเนื่องกับการเมืองตลอด ทุกวัน จะมีนักการเมืองทำเรื่องให้เราต้องมาคิดพินิจพิเคราะห์ไม่จบสิ้น ซึ่งล้วนแต่ผลประโยชน์ของนักการเมืองเองทั้งนั้น ดูจะไม่มีใครหวนกลับมาดูว่าประเทศชาติจะได้รับผลของความเสียหายอย่างไร หาช่องที่ตัวเองจะได้กลับสู่อำนาจ ตอดเล็กตอดน้อยก็ทำกันไป ดูๆไปแล้วประชาชน ,ประเทศชาติเป็นของเล่น ที่พวกนักการเมืองจะมาจับให้เดินทางไหน ได้ทั้งนั้น

เมื่อวานที่นายตำรวจใหญ่ยอมประกาศไม่รับตำแหน่ง ครูถือว่าเป็นเรื่องของการแสดงน้ำใจอย่างที่นักการเมืองควรจะเอาเป็นตัวอย่าง เขารู้ตัวว่า ตัวเขาเป็นเหตุของปัญหาของชาวไทยมุสลิมที่จะไปแสวงบุญ เขาก็วางตัวเขาไว้ในที่ๆเราเองหวังเอาไว้ ตรงตามที่คาดเอาไว้ สามัญสำนึกในความรับผิดชอบชั่วดีนั้น มีครบถ้วน เขาจะผิดจริงหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่จะต้องพิสูจน์กันต่อ ถ้าคณะที่รับงานไม่ทำงานแบบที่เคยเป็นมาเหมือนครั้งที่แล้วๆมา ซึ่งครูเชื่อว่ารัฐบาลนี้พยายามทำอย่างสุดกำลังแล้ว แต่เรายังมีนักการเมืองอีกพวกหนึ่งที่พยายามจุดไฟในเมือง หาโยงเรื่องต่างๆเข้าไว้ ไม่ให้เราเดินไปข้างหน้าได้ สร้างปัญหาให้กับประเทศ นักการเมืองเหล่านั้นล้วนแต่คอยจุดประเด็น จุดไฟ ชักศึกเข้าบ้าน ซึ่งหนังสือพิมพ์ต่างๆก็ลงข่าวอยู่เป็นประจำ คำถามที่ว่า นักการเมืองเหล่านั้นเป็นคนไทยหรือเปล่า ก็ชวนให้คิด

มาเมื่อเช้าภาคเอกชนก็ออกมาระบุว่าการส่งออกสินค้าของไทยจะได้ผลกระทบ ความเสียหายที่จะได้รับจากประเทศซาอุดิฯประเทศเดียว 3 แสนกว่าล้าน ผู้ส่งออกไทย 10 ราย มีปัญหาที่รัฐบาลซาอุดิฯไม่ประทับตราผ่านสินค้า บอกต่อไปว่าปัจจุบันนี้เราได้รับทุนจากอาหรับเข้ามาลงทุนในตลาด ซึ่งเป็นเม็ดเงินมหาศาล หากมีปัญหาเราจะเสียโอกาส แถมยังต่อไปอีกว่าถ้ารัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ รับรองว่าพรรคประชาธิปัตย์จะสูญพันธุ์ในภาคใต้ ฟังดูแล้วก็น่ากลัว และคงจะลืมไปหน่อยว่า คนภาคใต้นั้นเขามั่นคง รักพวกพ้องเป็นอย่างยิ่งพรรคประชาธิปัตย์ วางฐานเอาไว้มั่นคง คงจะไม่สูญพันธุ์แบบที่ว่า ครูว่า ประชาธิปัตย์ น่าจะแข็งขึ้นกว่าเดิมเสียอีก เพราะความเห็นอกเห็นใจ ที่เรียกว่าคะแนนสงสารจะเทให้ไปเต็มๆ ภาคเอกชนที่ส่งออกเขาก็กลัวไปว่าประเทศซาอุดิฯ ซึ่งเป็นลูกพี่ใหญ่ในโลกมุสลิม มีสมาชิกอยู่ 57 ประเทศ จะรวมกันบอยคอต ไม่ร่วมทำการค้าด้วย...นึกแต่เรื่องเงิน...ไม่ได้นึกนึกถึงศักดิ์ศรีของประเทศชาติเลย ถ้าเทียบกับจิตใจของคนญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว ทาบกันไม่ติด พระจักรพรรดิของญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม พร้อมกับความตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวว่า จะสร้างชาติใหม่ให้แข็งแรงกว่าเดิม ให้โลกได้เห็น ได้ยกย่อง พวกที่ไม่ยอมแพ้โดดน้ำฆ่าตัวตาย 300 ศพในทันที นั่นคือความเด็ดเดี่ยวของเขา แล้วเป็นไง...เดี๋ยวนี้ญี่ปุ่นเจริญไม่เป็นรองใคร แล้วเราล่ะ เห็นแก่ศักดิ์ศรีของประเทศหรือเปล่า หรือมองแต่ผลประโยชน์อย่างเดียว

เรื่องที่ภาคเอกชนกลัวเรื่องโลกมุสลิมจะบอยคอต แม้แต่คนที่ทำงานอยู่ในด้านศาสนา ซึ่งก็เป็นอดีตนักการเมืองก็ออกมาพูดเหมือนๆกัน ส่งไม้ต่อเหมือนวิ่งผลัด 4 คูณ 100 รับไม้กันแบบไม่พลาด ไม่ได้เสนอแนะเลยว่าจะทำอย่างไร ออกความเห็นด้านดี ไม่มี เหมือนอยากเห็นประเทศไทยล้มลงต่อหน้า... “ถ้าฉันไม่ได้อย่างที่ฉันต้องการ ก็อย่าหวังว่าจะอยู่กันอย่างสงบ” คำพูดคล้ายๆอย่างนี้รู้สึกเคยได้ยิน หรือเขามีความคิดอย่างนั้นจริงๆ นักการเมืองจากภาคใต้ที่เป็นมุสลิมอีกคนก็ออกมาบอกว่า ให้เร่งสะสางคดีเพชรซาอุฯ และคดีอุ้มฆ่านักการทูตและนักธุรกิจของประเทศซาอุฯ ซึ่งก็ยืดเยื้อมา 20 ปีแล้ว....20 ปี เรามีรัฐบาลผ่านไปแล้วกี่รัฐบาล พรรคไหนๆก็ได้ร่วมอยู่ในเวลา 20 ปีนั้นกันทุกพรรค ก็ในอดีต ไม่เห็นว่าจะก้าวหน้าไปถึงไหน ศาลเองก็ได้ตัดสินไป ตามหลักฐานไปทุกอย่าง ตำรวจชงกาแฟให้ศาล ศาลก็ต้องบอกว่านี่มันกาแฟ ตำรวจชงชาขึ้นไป ไม่ว่าจะผ่านมืออัยการหรือศาลก็ต้องบอกว่า นี่มันคือชา...ปัญหาไม่ได้อยู่ที่พรรคการเมือง...มันอยู่ที่คนชง คนค้นหาหลักฐาน และหลักฐานตัวนั้นยังมีเหลือให้ดมอยู่หรือไม่ต่างหาก จากนี้เป็นต้นไป เราเองก็ต้องมาตั้งสติกัน ทุกข์ของประเทศซาอุฯ คืออะไร (เพชรซาอุ และคดีอุ้มฆ่าคนของเขา)...เราจะแก้ให้ได้อย่างไร...(ตำรวจได้ค้นหาหลักฐานกันจริงๆหรือไม่...ไม่ใช่แค่บัตรสนเท่ห์) แล้วทุกข์ของเราที่มีต่อซาอุฯ คืออะไร...(การค้า..การศาสนา...ฯลฯ) ซึ่งมันพันกันตลอด แก้ปมทุกข์ให้เขาไม่ได้ เราก็แก้ปมเราไม่ได้เหมือนกัน

ครูจะลืมๆเรื่องนักการเมืองหลายๆคนที่คอยจุดประเด็น จุดไฟว่อนไปทุกที่ค่ะ ไม่ว่าจะไปเดินเรื่องที่เขมร ไปรัสเซีย ไปซาอุฯ แล้วว่าจะไปมาเลเซีย...มันเป็นสะเก็ดไฟไปทั่วแล้วค่ะ

ภาพประกอบ//http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1597409