Daisypath Anniversary tickers

รอบรั้ว เมืองอุดร หน้าประวัติศาสตร์อีกหนึ่งสมัย

Saturday, August 18, 2007

ที่ตรงนี้ ลูกๆคงจะไม่มีใครเกิดทัน ที่จะได้เห็น ภาพเก่าๆก็แทบหาดูไม่ได้แล้ว...คนเก่าแก่ที่นี่เท่านั้น ถึงจะจำได้ว่าอยู่ที่ไหน ถ้าลูกๆเห็นคุณพ่อคุณแม่อยู่ใกล้ๆ ลองถามคุณพ่อดูซิคะ ว่าจำที่ตรงนี้ได้มั้ย หรือถ้าคุณปู่คุณย่าอยู่ด้วยก็ถาม ดูซิคะ ว่าตรงนี้ มันอยู่ตรงไหนในอุดรของเราคะ....เอาละ ครูก็ต้องเฉลยแล้วค่ะ..ที่ตรงนี้คือวงเวียนห้าแยกหอนาฬิกา ที่ต่อมาเรียกว่าวงเวียนห้าแยกน้อย แล้วในปัจจุบันคือวงเวียนอนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ค่ะ วงเวียนแถวๆนี้ ก็มี ห้าแยกใหญ่ แล้วก็มาที่วงเวียนสี่แยกคอกวัว คุ้นชื่อมั้ยคะกับสี่แยกคอกวัว คงไม่ค่ะเพราะเดี๋ยวนี้เรียกสี่แยกหอนาฬิกา แล้วใกล้ๆนั้นก็มีห้าแยกวุ่นวายอีก วันหลังจะมาพูดแยกเก่าๆ..ชื่อเก่าๆ ที่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนชื่อไปหมดแล้ว กลับมาดูที่ถนนอีกที ลูกๆจะสังเกตว่าข้างถนนนั่น มีกอหญ้าริมทางเยอะเลย เดี๋ยวนี้ก็กลายเป็นถนนคอนกรีตไปหมดแล้ว ตรงไหล่ถนนนั่นที่เลยกอหญ้าไปเป็นลำคลองค่ะ ครูจำชื่อไม่ได้แล้วว่าชื่อคลองอะไร วันหลังถ้าเขียนเรื่องนี้จะเอามาบอกค่ะ แต่ถ้าลูกๆสังเกตให้ดีๆ ตรงที่รถเก๋งวิ่งไปนั่น กำลังจะข้ามสะพาน...ใช่แล้วค่ะกำลังข้ามคลอง ที่ยังนึกชื่อไม่ออก แต่เดี๋ยวนี้ทั้งคลองและสะพานไม่มีแล้วค่ะ ผ่านมาหลายปีแล้วที่สร้างถนนใหม่ ได้ถมคลองไป..เลยสะพานไปหน่อย ที่อยู่ฝั่งเดียวกับรถเก๋งนั่น จะมีป้อมตำรวจและทหารอยู่...
ในสมัยนั้นประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น ลาว เวียตนาม เขมร กำลังอยู่ในสงครามแบ่งฝ่ายกันระหว่างระบอบการปกครองแบบเสรีประชาธิปไตยกับระบอบคอมมิวนิสต์...ในเมืองอุดรก็เป็นฐานทัพของทหารอเมริกัน อยู่ 3 ที่ คือฐานบินของทหารอากาศ หน่วย 432ndTRW นี่ก็เป็นฐานส่งเครื่องบินรบออกไปต่อสู้ อยู่ที่สนามบินกองบิน 23 ของเรานี่แหละ ซึ่งก็ได้เข้ามาตั้งฐานทัพในปี 2508 เครื่องบินรบที่ขึ้นชื่อมากๆคือ F-4D Phantom ส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดโดยอาศัยข้อมูลจากทหารบกที่โนนสูง และจากหน่วยค้นหาข้อมูลจากเวียตนาม เพื่อหาพิกัดที่แน่นอนของข้าศึก
ในฐานนั้นก็ยังมีหน่วยงานหนึ่งเรียกว่าแอร์อเมริกาอีก (Air America) พวกนี้ช่วยฝ่ายทหารลาวรบกับฝ่ายคอมมิวนิสต์ ส่วนหนึ่งของหน่วยงานนี้มีหน้าที่ซ่อมเครื่องบินรบ หรือเฮลิคอปเตอร์ มีช่างเทคนิคที่เป็นคนไทยเยอะมาก และถือว่าฝีมือในการซ่อมบำรุงนั้นมีชื่อเสียงมาก ส่วนที่ว่าช่วยทหารลาวรบกับคอมมิวนิสต์ก็รบแบบลับๆ จะไม่เหมือนกับรบกันในเวียตนาม ที่รบแบบเต็มตัว เขาจะทำหน้าที่ส่งเสบียงเช่นข้าวสารอาหารแห้ง กระสุน อาวุธ เข้าลาว สอดแนมถ่ายรูปที่ตั้งของฝ่ายข้าศึก เฮลิคอปเตอร์ของแอร์ อเมริกาจะบินผ่านหลังคาบ้านครูแทบทุกวันค่ะ



อีกหน่วยงานหนึ่งเลยไปที่โนนสูง ก็มีฐานของทหารอเมริกันอีก เป็นทหารบกหน่วยงานค้นหาแหล่งส่งข่าววิทยุของฝ่ายตรงกันข้าม(7thRRFS-7th Radio Research Field Station) แต่นั่นก็เป็นชื่อที่ตั้งสำรองเอาไว้ ชื่อจริงๆก็คือหน่วยสืบหาความลับของศัตรู (ASA -Army Security Agency) ที่ครูเล่าเอาไว้แล้วว่า หน่วยเครื่องบินรบก็อาศัยข้อมูลจากหน่วยนี้นั่นแหละค่ะ ถ้าเราดูหนัง เรื่อง Enemy of the state ก็จะเห็นว่าหน่วยงานนั้นแอบทำงานลับๆตลอด ใครอยู่ตรงไหนก็เข้าแอบฟัง แอบดู สอดแนมตลอดเวลา ค่ายที่อยู่ในอุดรนั้นชื่อค่ายรามสูร (Ramasun) หน่วยงานนี้จะหาพิกัดของข้าศึก มาเทียบกับอีกฝ่ายที่ชื่อคล้ายๆกันในเวียตนาม(8thRRFS) และจากที่อื่นอีก ซึ่งอาจเป็นที่กรุงเทพ (5thRRU- 5th Radio Research Unit) ชื่อจะต่างกันนิดหนึ่งนะคะ แต่รู้สึกว่าการอ่านว่าข้าศึกอยู่ตรงไหนแน่นั่น จะต้องใช้เป็นรูปสามเหลี่ยม เลยโนนสูงไปนิดหนึ่งจะเจอหน่วยทหารอีกหน่วย แต่หน่วยนี้เป็นที่เก็บอาวุธของทหารในสมัยนั้นค่ะ เขาเรียกชื่อตรงนั้นว่า
เป้ปเปอร์ กรายเดอร์ (Pepper grinder)


ยังไม่หมดนะคะ เลยไปที่อำเภอน้ำพอง (ใกล้ๆกับอุดร จังหวัดขอนแก่นค่ะ) ยังมีหน่วยทหารนาวิกโยธินของอเมริกัน(โดยมีทหารเรือบางหน่วย ทหารอากาศบางหน่วยเข้ามาช่วยเหลือ) ที่ย้ายมาจากเวียตนาม มาตั้งฐานรบที่นี่ ถือกันว่าเป็นสนามบินลับค่ะ เพราะอยู่กลางป่าเลย หน่วยนี้หน้าที่หลักคือบินทิ้งระเบิด มีหน่วย MAG 15 (Marine Aircraft Group 15)เป็นกำลังหลัก ทหารหน่วยนี้รบรอบด้านทั้ง ลาว เขมร และเวียตนาม และมาตั้งฐานอยู่ในช่วงสั้นๆ เพราะหลังจากนั้นก็ถอนกำลังออกไป จะเห็นว่าเรามีทหารอยู่มากมาย หลายๆหน่วย ทหารไทยของเราเองก็มีฐานอยู่ที่นี่ด้วย ป้อมตำรวจ/ทหารตรงเชิงสะพานจึงจำเป็นจะต้องมีเอาไว้ เพื่อคอยควบคุมเหล่าทหารที่เกเร เห็นมั้ยคะว่าเมืองอุดรของเราก็มีประวัติอยู่เป็นช่วงๆ ครูถึงอยากเล่าเอาไว้ ไม่อยากให้มันเลือนหายไป

Posted by ครูพเยาว์ at 7:12 PM