Daisypath Anniversary tickers

รอบรั้ว โรงพยาบาลของเรา โรงพยาบาลอุดรธานี

Friday, December 7, 2007


เกือบ 4 เดือนแล้ว ที่ต้องเข้าๆออกๆอยู่กับโรงพยาบาล เพราะตัวเองต้องไปหาหมอฟัน สามีก็ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเกือบเดือน กว่าจะเดินเหินไปไหนมาไหนได้บ้าง จากที่ต้องหามเข้ารักษา จนกระทั่งนั่งรถเข็นออกจากที่แห่งนี้ แล้วก็เวียนเข้าเวียนออกจนกระทั่งเดินได้เกือบจะหายดี แต่ก็ยังค่ะ คุณหมอท่านยังไม่ไว้วางใจ ยังต้องเข้าไปให้ดูเป็นระยะๆ
...
จากการที่ได้เข้าไปคลุกคลีอยู่เป็นเวลานาน ก็สังเกตเห็นว่า งานรักษาของคุณหมอแต่ละคนนั้น ช่างหนักหนาเอาเสียจริงๆ ดูจำนวนคนป่วยที่เข้ามากับจำนวนหมอที่ต้องรับมือแล้ว มันช่างห่างกับคำว่าสมดุลย์ พอเหมาะพอควรเสียเหลือเกิน นี่หมอหนึ่งคนต้องรับมือกับคนป่วยเท่าไหร่กันแน่นี่
...
คุณหมอที่ต้องไปเจอเป็นประจำของสามีคือ คุณหมอวิสุทธิ์ ตันรัตนาวงศ์ คุณหมอสุดา จิรกุลสมโชค คุณหมอสุณี เศรษฐเสถียร คุณหมอสุกัญญา ภัยหลีกลี้ ดูชื่อของคุณหมอให้ดีนะคะ ถ้าผู้ปกครองคนไหนอยากให้ลูกเป็นหมอละก้อ หาชื่อให้มีคำว่า "สุ" ติดชื่อไว้สักหน่อยก็ดี แม้กระทั่งคุณหมอผู้ชายนายแพทย์วิสุทธิ์ ก็ยังมี "สุ" ติดเป็นโลโก้อยู่เลย แต่ลูกสาวของคุณหมอวิสุทธิ์ดูจะไม่เรียนหมอนะคะ เพราะคงจะขยาดกับหน้าที่ๆต้องเจอ แต่คุณหมอทุกคนก็อารมณ์ดีอยู่เสมอ คุณหมอสุกัญญาเองรักษาคนป่วยจนตัวเองต้องมาป่วยเสียพักหนึ่ง ถามพยาบาลว่าเป็นอะไรไป คำตอบที่ได้รับคือ งานหนักค่ะ กรำงานหนักค่ะ นิวโมเนียถามหาให้คุณหมอรู้จักรักษาตัวไว้ด้วย
...
คุณหมอที่ครูต้องเจอ ไม่มี "สุ"ติดเอาไว้ แต่ก็ยังมี "ส" อยู่ คุณหมอสิริรัตน์ วีระเศรษฐกุลค่ะ นี่ก็ต้องไปเจอท่านทุกเดือนเหมือนกันจนกว่าฟันของครูจะสวย แต่ถ้าลูกๆขึ้นไปชั้น 4 ของโรงพยาบาลละก็ จะเห็นคนรอคิวนับไม่ถ้วนเลยละค่ะ เหมือนๆกันทุกหมอ
...
ถ้าเราเข้าไปในโรงพยาบาล ป้ายที่เราจะเห็นอยู่รอบๆโรงพยาบาลก็จะเป็นป้ายบอกเกี่ยวกับผลร้ายของการสูบบุหรี่เสียเป็นจำนวนมาก และดูๆชาวบ้านที่มานั่งรอคนป่วย ญาติผู้ป่วยจะไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก สูบบุหรี่ตรงป้ายห้ามนั่นแหละ ถ้าเดินไปด้านหลังแถวที่จอดรถเป็นต้องเจอ กับป้ายอีกป้ายหนึ่งที่ดูจะเป็นที่ต้องการของโรงพยาบาลมากคือ HA มันอะไรกันหนอ HA นี่.....ถามไปถามมาว่าคืออะไร จนกระทั่งได้คำตอบมาว่าเป็นการรับรองคุณภาพของโรงพยาบาล ซึ่งจะต้องพัฒนาให้ถึงเกณฑ์อย่างนั้นอย่างนี้ เหมือนครูที่ต้องประเมินผลของการสอนนั่นแหละ แต่ในโรงพยาบาลนี้ในห้องหนึ่ง ต้องให้ HA HA HA คือต้องมี 3 ตัว คือห้องกายภาพบำบัด ของคุณระลึก ปรัชญากร เพราะคนป่วยในห้องของท่านดูจะอารมณ์ดีกันพิเศษ มีเรื่องคุยกันระหว่างคนป่วยสารพัดเรื่อง มีเสียงหัวเราะกันตลอด ขนาดเจ็บอยู่ยังอดขำ อดยิ้มไม่ได้
...
สิ่งที่ครูอยากพูดเป็นพิเศษ อยากบอกทุกคนให้ได้รับรู้คือ โรงพยาบาลของเรา มีงบประมาณไม่พอแน่ สิ่งนี้น่าห่วงที่สุด ดูรถเข็นคนป่วยหน้าโรงพยาบาล ไม่ได้รับการซ่อมแซม เบาะขาดหายไปเยอะ เตียงเข็นคนป่วย ระดับความสูงไม่สัมพันธ์กับเตียงคนไข้ เวลาจะเคลื่อนย้ายจากรถลงเตียง หรือเอาคนป่วยจากเตียงขึ้นเตียงรถเข็น ทำให้คนป่วยได้รับความเจ็บปวด ครูเห็นมาแล้ว ถึงแม้จะมีตัวช่วยอย่างเช่นสไลด์ เลื่อน โดยมีผ้าช่วยดึง ก็เจ็บปวดอยู่ดี เรามีเงินช่วยจากภาษีที่เราจ่าย เราจะจ่ายให้พรรคการเมืองได้ คนละ 100 บาททุกปี เราน่าจะจ่ายให้กับโรงพยาบาลได้ โดยไม่มีข้อแม้ เพราะนี่คือโรงพยาบาลของเรา หรือจ่ายให้กับโรงเรียนไหนก็ได้ที่เราเห็นควร เพราะนั่นก็คือโรงเรียนของเรา...และอีกนาน น น น กว่าคนไทยจะมีพรรคการเมืองในดวงใจ....เพราะพรรคการเมืองเป็นของนักการเมือง..นายทุนพรรค ยังไม่มีเหมือนกับต่างประเทศ ที่เขาถือพรรคเป็นพรรคของเขา เมืองไทยที่น่าจะมีตอนนี้ ถ้าเข้าใจไม่ผิดก็ประชาธิปัตย์พรรคเดียว ที่ไม่มีเจ้าของพรรค....เอ้า ครูออกนอกเรื่องเสียแล้ว
...
ถ้าเราสามารถจ่ายภาษีของเราได้จากการระบุของเราก็จะเป็นการดี ครูจะไปถามเรื่องนี้จากสรรพากรอีกที เผื่อว่าเงินของเรากลับมาช่วยเรา ดังใจของเรา ไม่ใช่ให้ใครไม่รู้เจียดแบ่งมาให้ ใครเห็นด้วยยกมือขึ้นค่ะ