รอบรั้ว พุทธศาสนา เซ็น 2010 จากสวนโมกข์สู่หมู่บ้านพลัม
Thursday, October 28, 2010
ครูได้ดูรายการสารคดีนี้จากทีวีของช่องเนชั่น ที่คุณสุทธิชัย หยุ่น เป็นคนดำเนินรายการ และสามารถดูผ่านอินเทอร์เนทได้จากยูทูบซึ่งมีหลายตอน คำสอนของท่าน ติช นัท ฮันห์ หลายตอนได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงไปของโลก ที่ก้าวไปข้างหน้าแล้ว ความทุกข์ของคนก็เปลี่ยน จากที่คนร่วมสมัยของพระพุทธเจ้ามีความทุกข์เมื่อสองพันกว่าปีโน้น กับสมัยนี้ ความทุกข์ไม่เหมือนกัน ตอนนี้ความทุกข์ของคนยังคงอยู่ แต่ทุกข์ที่มาหานั้นเปลี่ยนหน้าตาไป วิธีแก้ยังใช้เหมือนเดิม มรรคมีองค์ 8 วิธีการที่จะพูดให้คนปลดทุกข์ให้ได้นั้นนั้น ก็ต้องปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตปัจจุบัน ปรับให้เข้ากับโลกปัจจุบันให้ได้ ซึ่งก็จะดึงคนร่วมสมัยเข้ามาหาพุทธได้ ซึ่งก็จะเห็นว่า ในหมู่บ้านพลัมของท่านที่ฝรั่งเศส มีคนหนุ่มสาว วัยรุ่นจากทั่วโลก ต้องย้ำนะคะว่ามาจากทั่วโลกทีเดียว การสอนก็ไม่เคร่ง มักจะได้ยินเสียงหัวเราะจากผู้มาปฎิบัติธรรมเป็นระยะๆ ท่านมีคำสอนที่ฟังง่ายๆ คำสอนที่ยากก็สามารถอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย บทสวดมนต์เหมือนกับการร้องเพลง เป็นอีกอย่างที่ท่านเปลี่ยน เพื่อให้คนรุ่นใหม่ เพื่อให้ชาวตะวันตกเข้าใจธรรมะ แต่ทุกอย่างยังคงไว้ซึ่งแก่นธรรม เพียงแต่กลับมาอยู่กับลมหายใจและสติเท่านั้น ภาษาที่ใช้ก็ได้รับการแปล เพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจ ไม่ว่าภาษาฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมัน แม้แต่เวียดนามซึ่งเมื่อก่อนใช้ภาษาจีนโบราณก็ได้รับการแปลให้เป็นภาษาเวียดนาม เมื่อร้องเพลงสวดมนต์ได้อย่างง่ายๆ เวลาฟังเทศน์คำสอนก็สามารถเข้าใจได้ง่ายยิ่ง ทุกอย่างท่านทำเพื่อคนสมัยใหม่
ในเรื่องอนัตตาที่ครูชอบมากคือคำเปรียบเทียบตอนที่มือซ้ายโดนค้อนทุบ...คำสอนของท่านตอนนี้เข้ากับสภาพบ้านเมืองเราตอนนี้มาก คือความสามัคคี...แบ่งพรรค แบ่งฝ่าย แบ่งเสื้อสีต่างๆ...คนไทยไม่เป็นเนื้อเดียวกัน ท่านติช นัท ฮันห์บอกว่า ทุกอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน ยกตัวอย่างมือซ้ายและมือขวา มือข้างซ้ายเราเองเป็นคนตั้งชื่อว่ามีข้างซ้าย มือขวา เราตั้งชื่อว่ามือขวา ทั้งสองข้างมี 5 นิ้วเท่ากัน แต่ความสามารถไม่เท่ากัน มือทั้งสองข้างก็ไม่เคยบ่นว่ามือข้างไหนเก่งกว่า ทำงานมากกว่า ซึ่งคนที่ถนัดขวาจะเห็นว่า มือขวานั่นทำงานหนักกว่ามือข้างซ้าย ทำงานหนัก เขียนหนังสือ วาดรูป ทำสารพัด มือด้านซ้ายได้แต่แกว่งไปแกว่งมา มีอยู่มาวันหนึ่ง ท่านบอกว่า ท่านต้องแขวนรูป มือซ้ายท่านก็ต้องจับตะปู มือขวาถือค้อน แต่เพราะท่านไม่ได้ตั้งสติให้ดี ตีค้อนพลาดไปโดนนิ้วซ้าย...เจ็บค่ะ...มือด้านซ้ายเจ็บ ทำให้มือด้านขวารีบวางค้อนลง แล้วมาประคองมือด้านซ้าย...ไม่ได้พูดอะไร...มือด้านซ้ายก็ไม่ได้บ่นว่า...หรือบอกว่าลองให้ฉันตีคืนสักครั้ง มือทั้งสองข้างนั้นเข้าใจกัน ว่าเป็นมือเช่นเดียวกัน เป็นเนื้อเดียวกัน...ทำให้เข้าใจเรื่องอนัตตาขึ้นมาแบบง่ายๆ ฝรั่งที่ฟังอยู่นั่นครางฮือ..แล้วก็หัวเราะกัน เข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้ง แบบไม่ต้องมานั่งฟังคำอธิบายที่เข้าใจยากอะไรเลย...แม้กระทั่งการอธิบายกระดาษแผ่นหนึ่ง ท่านก็โยงไปว่านั่นคือต้นไม้ ทุกอย่างไม่มีจุดเริ่ม เป็นวัฎสงสาร...สารคดีชุดนี้หาดูได้จากอินเทอร์เนทค่ะ มีอยู่หลายตอน ครูอยากให้ลูกๆได้ดู ได้ฟังเป็นการฝึกภาษาอังกฤษไปด้วย มีคำแปลเป็นภาษาไทย ซึ่งไม่ต้องห่วงว่าจะแปลพลาด เพราะคุณสุทธิชัย หยุ่นนั่นถือว่าเป็นปรมาจารย์ด้านภาษาอยู่แล้วค่ะ
Posted by
ครูพเยาว์
at
7:20 AM
Labels: ทั่วไป ตามใจคิด, พุทธศาสนา