Daisypath Anniversary tickers

รอบรั้ว เมืองไทย ร่วมกันโกงชาติ

Monday, June 29, 2009


เมื่อวานกลับมาจากสวน เมื่อมาถึงก็ได้ฟังข่าว ที่พูดถึงประเด็นที่สำคัญ คือการคอร์รัปชั่นของนักการเมือง ว่าคนไทยมีความคิดเห็นอย่างไร เนื้อข่าวลงรายละเอียดว่า สำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเรื่องชีวิตที่พอเพียงกับความอยู่เย็นเป็นสุขของประชาชนและประเด็นสำคัญอื่นๆของประเทศในขณะนี้ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนใน 17 จังหวัดของประเทศ จำนวน 1,228 ครัวเรือน พบว่าประชาชนร้อยละ 73.9 เห็นด้วยว่าการใช้ชีวิตพอเพียงช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ และประชาชนส่วนใหญ่พยายามรักษาสิ่งของเครื่องใช้ให้คงสภาพใช้งานได้ยาวนาน และมุ่งทำงานให้พออยู่พอกินและมีเงินเก็บไว้ใช้ยามจำเป็น ทั้งนี้ ในการสำรวจความเห็นกรณีการทุจริตคอร์รัปชั่นมีประชาชนถึงร้อยละ 84.5 มองว่าการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องปกติธรรมดาในการทำธุรกิจ และส่วนใหญ่ร้อยละ 51.2 ยังยอมรับได้ที่รัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่น โดยคิดว่าทุกรัฐบาลมีการทุจริตคอร์รัปชั่นถ้าทุจริตแล้วทำให้ประเทศรุ่งเรือง ประชาชนกินดีอยู่ดีก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้

ที่น่าตกใจก็คือ มีคนเห็นด้วยกับการทุจริตถึงร้อยละ 84.5 มองเป็นเรื่องธรรมดาเสียอีก และถ้าการทุจริตนั้นถ้าตัวเองได้รับผลประโยชน์ด้วย นี่พูดกันแบบง่ายๆเลย ก็เห็นด้วยกับการทุจริตนั้นถึง 51.2 เปอร์เซ็นต์ เกินครึ่งของคนที่สำรวจมา!!!! นี่มันอะไรกัน!!!!! เดี๋ยวนี้สังคมของเราก้าวไปสู่ยุคโจรครองเมืองแล้วหรืออย่างไร หลังจากที่มีนักการเมืองที่ฉ้อฉลเข้าไปสู่แหล่งเงินแหล่งทอง โกงเอาสมบัติชาติออกมา แล้วมาแจกจ่ายส่วนหนึ่งให้ ก็มีประชาชนออกมาเห็นด้วยกับการกระทำนั้น ทำให้มีข้อสงสัยเบื้องต้นขึ้นมาในใจทันที ข้อแรก ศาสนาของเราที่พร่ำสอนกันอยู่ สอนศาสนิกกันแบบไหน ทำไมจึงตาลปัตรกลับหน้ากลับหลังได้ถึงเพียงนี้ ข้อที่สอง โรงเรียนของเรา สอนกันแบบไหน คุณธรรมจริยธรรมถึงหายไปได้ถึงเพียงนี้ และภูมิความรู้การศึกษาของคนไทยมีเท่าไหร่กันแน่ หลังจากปฏิรูปกันมาเป็นเวลานาน

การสำรวจนี้มันสอดคล้องจากรายงานการศึกษาล่าสุดของสถาบัน Political and Economic Risk Consultancy (PERC) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ฮ่องกง ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อต้นเดือนเมษายน 2552 โดยสำรวจความคิดเห็นของนักธุรกิจระดับผู้บริหารทั้งของบริษัทในท้องถิ่นและบริษัทต่างชาติประมาณ 1,750 คน โดยจัดอันดับคอร์รัปชัน 16 ประเทศ จำแนกเป็น 14 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงประเทศภายนอกภูมิภาคอีก 2 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา

ผลการสำรวจพบว่าอินโดนีเซียครองแชมป์อันดับ 1 โดยได้รับคะแนน 8.32 ส่วนประเทศไทยได้รับตำแหน่งรองแชมป์ คือ 7.63 คะแนน ในเอเชียนี่ การโกงเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด เราอยู่ในลำดับที่ไม่น่าแปลกใจสักนิด จากสายตาของชาวต่างประเทศ ซึ่งก็เป็นการเสริมได้เลย ว่าผลสำรวจของเอแบค ถูกต้อง!!!!! เรารับได้กับการโกงทุกรูปแบบ และรับได้แบบหน้าชื่นตาบาน และให้ดูทุกประเทศได้เลยว่ามีประเทศไหนบ้างที่มีการโกงกันแบบเราบ้าง และอยากให้เปรียบเทียบว่า ประเทศที่ไม่มีการโกงเกิดขึ้น เขาเจริญไปแบบไหน เชิญอ่านค่ะ

กัมพูชาอันดับ 3 ได้รับ 7.25 คะแนน อินเดียอันดับ 4 ได้รับ 7.21 คะแนน และเวียดนามอันดับ 5 ได้รับ 7.11 คะแนน สำหรับอันดับ 6 ถึงอันดับที่ 12 เรียงตามลำดับ คือ ฟิลิปปินส์ 7.0 คะแนน มาเลเซีย 6.70 คะแนน ไต้หวัน 6.47 คะแนน จีน 6.16 คะแนน มาเก๊า 5.84 คะแนน เกาหลีใต้ 4.64 คะแนน และญี่ปุ่น 3.99 คะแนน ส่วนประเทศที่ครองอันดับบ๊วย ซึ่งแสดงว่ามีความใสสะอาดระดับสูงสุด คือ สิงคโปร์ 1.01 คะแนน สำหรับรองบ๊วยอันดับ 2 – 4 คือ ฮ่องกง 1.89 คะแนน ออสเตรเลีย 2.40 คะแนน และสหรัฐฯ 2.89 คะแนน

ทั้งหมดนี้ เราแทบไม่ได้ยินข่าวเรื่องการคอร์รัปชั่นเลยก็คือ สิงคโปร์ มีแค่ครั้งเดียวก็คือการซื้อกิจการของอดีตนายกทักษิณแล้วทำให้บริษัทของสิงคโปร์ขาดทุนไปเป็นจำนวนมาก แล้วก็ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของบริษัท นั่นก็คือบริษัทเทมาเซคของรัฐบาลสิงคโปร์ แต่นั่นก็มีเบื้องหลังเบื้องลึกอะไรอีก และอีก 2- 3 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง ถ้าเราได้ยินว่าถ้าเกิดนักการเมืองเขาโกง เขาจะลาออกทันที และบางครั้ง “อับอาย ขายหน้า เสียเกียรติภูมิ ทำให้ตระกูลด่างพร้อย” เลย ฆ่าตัวตาย ได้ยินบ่อยใช่มั๊ยคะ และถ้าไม่ถึงขั้นนั้น ไปสู่ศาล ผลสุดท้าย ก็เข้าคุก บางคนถึงตายในคุก มีมาแล้วทั้งนั้น นั่งไงคะ เขาถึงรักษาบ้านเมืองเอาไว้ได้ และเจริญก้าวหน้าจนอยู่แถวหน้าของประเทศที่เจริญแล้ว

อยากยกตัวอย่างของเราให้ดูซักตัวอย่างค่ะ ถนนบ้านเราที่สร้างเสร็จใหม่ๆ ใช้ไปเถอะ ไม่ถึง 6 เดือน รับประกันได้เลยค่ะ เป็นหลุมเป็นบ่อให้เห็นจะจะได้เลย ครูนี่เดินทางไปต่างอำเภอบ่อย เห็นเป็นประจำ นี่คือผลงานของนักการเมือง ข้าราชการของเราร่วมกับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง พ่อค้า ร่วมกันค่ะ ร่วมกันโกงประเทศไทย

ยอมรับค่ะ ว่าเขียนเรื่องนี้ด้วยความเสียใจ เสียใจกับอนาคตของประเทศ เสียใจกับลูกหลานว่าจะอยู่กันอย่างไรกับคนรอบข้างที่พร้อมจะโกงกันทุกวินาที!!!!
ภาพจากอินเทอร์เนต