Daisypath Anniversary tickers

รอบรั้ว โรงเรียน ต้นกล้าที่แข็งแรง

Friday, June 19, 2009

ครูเองออกต่างอำเภอบ่อยอยู่ บางทีไปวัด เพราะต้องช่วยงานทางด้านศาสนาบ้าง บางทีก็เข้าสวน เพราะพ่อบ้านของครูชอบงานเกษตร ครอบครัวครูปลูกยางพารากันค่ะ การที่ออกไปตอนวันหยุดราชการ หรือวันสำคัญทางศาสนาหรือของวัดนั้น ก็ได้เห็นว่าช่วงนี้ย่างเข้าหน้าฝน ชาวนาเริ่มไถ เริ่มหว่าน ปักดำต้นกล้าแล้ว บางที่น้ำก็สมบูรณ์ กล้าก็งาม บางที่น้ำน้อย ถ้าฝนขาดช่วง ไม่ตกลงมาทันการ กล้าเหล่านั้นก็คงจะแห้งตายคานา น่าเสียดายนะคะ ที่เรายังต้องรอฟ้า รอฝน ไม่พัฒนาระบบชลประทานให้เข้ารูปเข้ารอย ชาวนาจะได้ไม่เสี่ยงต่อการลงแรงลงทุนในการปักดำลงไป


เมื่อกลับมาที่โรงเรียน ปีนี้ครูมีลูกศิษย์ในชั้นนี้อยู่ 45 คน นับว่าเป็นต้นกล้าของครูที่จะต้อง ประคับประคองดูแล ให้น้ำ ให้ปุ๋ย ให้วิชา ความรู้ เพราะเป็นต้นกล้าที่ยังไม่โตเต็มที่ เท่าที่เพิ่งได้พบหน้ากัน ดูคร่าวๆ เป็นเด็กดีกันทุกคนค่ะ อย่างน้อยครูก็หวังไว้อย่างนั้นนะคะ เมื่อเราต้องมาอยู่ด้วยกัน ก็ต้องดูแลกัน รับผิดชอบงานต่างๆด้วยกัน ช่วยเหลือกัน งานต่างๆถึงจะสำเร็จลุล่วงไปได้ดีค่ะ

การเรียนในช่วงนี้ ไม่ถือว่ามีปัญหาอะไรอีกต่อไป ถ้าเปรียบเหมือนปลูกข้าว ก็ให้เห็นว่า มีน้ำสมบูรณ์ดีแล้ว เพราะงบประมาณในด้านการศึกษา เราได้มีอย่างพร้อมเพรียง เหลืออยู่ก็เพียงแค่ ต้นกล้านั้น จะได้รับปุ๋ย รับวิชาที่ครูหว่านลงไปนั้นได้เต็มที่หรือเปล่า ถ้าได้รับเต็มที่ลูกๆก็จะได้เติบโตผ่านไปอีกหนึ่งปี ปลายปีก็คงจะเห็นว่า กล้าต้นไหนโต กล้าต้นไหนแคระแกร็น แน่นอนว่าในระหว่างที่ครูดูแลอยู่นั้น ต้องเอาใจใส่ จ้ำจี้จ้ำไชให้ลูกๆเอาใจใส่ในการเรียน การที่ลงไปถึงจุดนั้นได้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า คนไหนเอาใจใส่ในการเรียน ในการดูดซับเอาวิชาจากครูไป ดังนั้นการที่มาทำความเข้าใจเรื่องนี้กันตั้งแต่ต้น เพื่อให้รู้ว่าที่ครูจะต้องดูแลถึงขนาดนั้น เพราะว่า ก็เพื่อให้ลูกๆได้ผ่านการเรียนชั้นนี้ไปอย่างเต็มความสามารถ และจะได้ภาคภูมิใจในการเรียน


ดูรูปเพื่อนๆกันนะคะว่าปีนี้ เรามีใครกันบ้าง และจงอย่าลืมกัน เพื่อนเราทุกคนสำคัญทั้งนั้น ไม่ว่าใคร มีภาษิตอยู่บทหนึ่งค่ะว่า “นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน บินขึ้นสู่ที่สูงไม่ได้” เพราะฉะนั้นเราต้องมีเพื่อนเอาไว้มากๆ ไว้คอยดูแลกัน ช่วยเหลือกันตลอดไปนะคะ