Daisypath Anniversary tickers

รอบรั้ว บ้านเมือง ตื่นเถิดชาวไทย

Friday, April 16, 2010


ทำไมคนไทยแตกแยกกันเป็นเสี่ยงๆคะ มันไม่ใช่เรื่องการขายชาติ ทรยศต่อประเทศชาติ เปิดประตูให้ศัตรูต่างชาติหรืออะไรทำนองนั้น แต่เรามุ่งฆ่ากันเพื่อผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆ ของนักการเมือง ซึ่งโน้มน้าว เป่าหู ชวนเชื่อกัน 24 ชั่วโมง โดยนักปลุกระดม ซึ่งใครก็ตามที่ไม่มีสติ ไม่มีหิริโอตัปปะ และมีอคติ 4 ก็พร้อมที่จะเชื่อโดยไม่มีข้อโต้แย้ง จะทำอย่างไรดีค่ะ คงจะต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาเพื่อเพิ่มพูนจิตสำนึกของนักการเมือง ให้เห็นประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง แล้วประโยชน์ตนก็จะตามมา หรือจะปล่อยไปตามกฎธรรมชาติ กฎอิทัปปัจจยตา ซึ่งฟังดูแล้วน่าจะยากอยู่นะคะ นักการเมืองมักมาด้วยผลประโยชน์ทั้งนั้น ดูซิคะ นักการเมืองคนไหนบ้างที่ไม่รวย บ้านแต่ละหลัง ประตูแต่ละบาน ไม่รู้ว่าจะอวดความมั่งมีกันถึงไหน มีบางคนอาจรวยมาก่อน โฆษณาล่วงหน้าด้วยว่า “รวยแล้วไม่โกง” ผลสุดท้ายก็ “โกง”อยู่ดี และนี่ก็คือผลที่จะตามมา เมื่อรวยก็ย่อมมีบริวาร รวยมากมีบริวารมาก ทีนี้ก็คุมสติไม่อยู่แล้ว ถ้าเป็นหนังจีนกำลังภายในก็ต้องบอกว่า “มารเข้าสิง”แล้วละค่ะ ซึ่งจริงๆแล้วก็คือความ “โลภ”เข้าสิง มีเงิน มีบริวาร มีอำนาจ เมื่อรวม 3 สิ่งนี้เข้าด้วยกันก็สามารถที่จะทำอะไรๆได้....อีกละค่ะ ถ้าเป็นหนังจีนกำลังภายใน ก็อยากเป็นเจ้ายุทธจักร เป็นแค่จอมยุทธนั้นไม่พอ บ้านเราเดี๋ยวนี้ก็ตกอยู่ในเรื่องนี้ มีคนอยากเป็นเจ้ายุทธจักร แล้วก็ส่งบริวารมาป่วนประเทศ

ครูเคยคิดว่าแล้วเราจะก้าวพ้นเรื่องเหล่านี้ไปได้อย่างไร เคยสำคัญผิดว่าการศึกษาจะช่วยได้ ถ้าเราให้การศึกษาอย่างเต็มที่ ให้คนของเรารู้เท่าเทียม เท่าทันกันหมด เรื่องร้ายๆจะหายไป เราจะเจริญเหมือนๆสิงคโปร์ ครูเคยคิดอย่างนั้นจริงๆ แต่ว่าตอนนี้ชักไม่แน่ใจ เพราะคนที่มีความรู้ระดับปริญญาตรีตั้งมากมาย ยกตัวอย่างก็ได้ เพื่อนๆของครูเอง ในร้อยกว่าคน ...90 เปอร์เซ็นต์ อยู่ฝั่งที่จะเอาผลประโยชน์อันน้อยนิดของนักการเมือง การศึกษาช่วยไม่ได้เลย แล้วอะไรล่ะที่มามาช่วยได้...สติค่ะ มีสติที่จะช่วยยั้งคิด อะไรผิด อะไรถูก หิริ ความละอายต่อตัวเอง แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีกัน เพราะถ้ามี ป่านนี้บ้านเมืองก็คงจะสงบไปแล้ว...ครูได้แต่มอง แล้วก็ภาวนาในใจ...ตื่นเถิดชาวไทย...อย่ามัวหลับใหลลุ่มหลง.......