รอบรั้ว บ้านเพื่อน ชื่อกิเลส (ตอน 3/5)
Wednesday, August 18, 2010
วันนี้จะมาพูดถึงนายกิเลสที่จะมาหาเราอีกรูปแบบหนึ่ง ชื่อ “ทิฎฐิ” น่าแปลกอยู่ที่นายคนนี้มาหาเราในรูปที่ ดีก็ได้ ร้ายก็เป็น...เราเองต้องคิดตัดสินใจเอาตอนที่เราจะทำอะไร อย่างเช่น จะช่วยเหลือเพื่อนตอนที่เขามาร้องขอ ซึ่งเราเองอาจช่วยก็ได้ ไม่ช่วยก็ได้ ถ้าเราช่วยก็เท่ากับว่าเราสร้างกรรมดีเอาไว้ “ทำดีนั่นแหละดี” นายทิฎฐิที่มาในรูปของกิเลสที่ดี หน้าตายิ้มๆมา เขาชื่อ “สัมมาทิฎฐิ”ค่ะ...แต่ถ้าเรากลับคิดว่า..เรื่องอะไรที่ฉันจะไปช่วยเธอ..เธอเองก็ไม่เคยช่วยอะไรฉันเลย นายทิฎฐิอีกคนก็จะเข้ามาเข้าข้างเรา เสริมเข้าไปอีกว่า ...ใช่ ทำดีได้ดี มีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป อะไรอย่างนี้...นายทิฎฐิคนนั้นชื่อ “มิจฉาทิฎฐิ” มายืนหัวเราะสมน้ำหน้าไปด้วย นายมิจฉาทิฎฐินี่อันตรายมากนะคะ ว่ากันว่าถ้าเราเชื่อนายนี้ และถ้าตายไปจากโลกนี้ ก็ต้องลงนรกแน่นอน และถึงแม้จะยังมีชีวิตอยู่ก็เท่ากับลงนรกไปแล้วด้วย เพราะเขามักชักชวนเราให้หลงผิดไปว่า บุญไม่มี บาปไม่มี ทำดีไม่ได้ดี ทำชั่วก็ไม่ได้ชั่ว กลายว่าเราจะเป็นคนที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวบนโลก แม้ยามเราลำบากก็จะหาใครมาช่วยได้ แต่ยังมีอีกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นตอนที่เรายังลังเลใจ...จะเชื่อใครดีน้า....ระหว่างสัมมาทิฎฐิกับมิจฉาทิฎฐิ...เกิดความไม่แน่ใจ...เกิดความสงสัย...เกิดความเคลือบแคลงสงสัยว่าถ้าเราทำดีแล้วจะดีมั้ยน้อ...ถ้าไม่ทำแล้วจะดีมั้ยน้อ...ชักไม่แน่ใจขึ้นมา ตอนที่คิดอยู่นี่ นายกิเลสมาในนามของ “วิจิกิจฉา” ก็เข้ามาจับความคิดเราพลิกไป พลิกมา ดีมั้ยน้อ...ดีหรือเปล่าน้อ...น่าจะอย่างนั้นน้อ....น่าจะอย่างนี้น้อ....ถ้าเราเกิดปัญญาขึ้นมา และถ้าคิดได้ว่า ทำดีนั่นแหละดี นายวิจิกิจฉาก็จะหายตัวไปทันที...ครูรู้ว่าอธิบายเรื่องนี้ได้ลำบากมาก แต่ก็เอาเถอะ...พอให้พวกเธอได้เห็นรูปเห็นร่างเบื้องต้นเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว การเรียนพระพุทธศาสนานั่น ยิ่งเรียนยิ่งสนุกนะคะ เพราะการอ่าน การทำความเข้าใจ จากนามธรรมให้เป็นรูปธรรมนั่น มันยากที่จะอธิบาย นอกจากจะนั่งฟังพระที่เทศน์เก่งๆ เป็นชั่วโมงได้ วันนี้พอแค่นี้ก่อนค่ะ