รอบรั้ว บ้านแห่งความเหลื่อมล้ำ
Friday, July 2, 2010
ครูมีโอกาสได้ไปชนบทบ่อยๆ ไปวัดที่อยู่ห่างไกล ไปในที่ๆความเจริญยังไปไม่ถึง จึงได้เห็นความแตกต่างของสังคมอย่างชัดเจน ความรุ่มรวย ฟุ้งเฟ้อของคนเมือง ความแร้นแค้นของคนบ้านนอก...มันช่างต่างกันยังกับอยู่คนละประเทศ และเรายังคงต้องอยู่กันแบบนี้อีกนาน....ไม่น่าแปลกใจที่เดี๋ยวนี้ เราจะพูดถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งแท้จริงแล้ว คงจะไม่ใช่เพียงแค่นั้น ความเหลื่อมล้ำกันในด้านการศึกษา, ในด้านจริยธรรม-คุณธรรม, ด้านสาธารณูปโภค และ ฯลฯ ล้วนแต่จะทำให้เรายิ่งแตกต่างกันออกไป
ครูอยากจะพูดถึงเรื่องการศึกษา เพราะได้ไปเจอโรงเรียนขนาดเล็ก ที่อยู่ในถิ่นกันดาร แร้นแค้นไปเสียทุกอย่าง ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณไปให้แล้ว ก็ยังไม่พออยู่ดี เพราะที่นั่นยังขาดสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีพมาก ของแพงอย่างชนิดที่นึกกันไม่ถึง เพราะการขนส่งมันลำบาก ถนนหนทางไม่สะดวก ร้านค้าที่มีก็ต้องบวกค่าน้ำมันกับค่าซ่อมรถยนต์รวมเข้าไปกับค่าสินค้าไปด้วย โชคดีที่ไม่บอกว่าบวกค่าภาษีมูลค่าเพิ่มเติมเข้าไปอีก เพราะขายแบบไม่มีใบเสร็จ เหตุที่คนที่นั่นอยู่กันอย่างปากกัดตีนถีบอย่างนั้น ทำให้การที่จะมาคิดถึงการศึกษาของลูกๆจึงหดหายไป เด็กที่จบประถมปีที่ 6 ออกมา 16 คน จึงมีโอกาสเรียนต่อแค่ 8 คน ครูลองสอบถามดูว่าทำไมไม่เรียนต่อกัน เหตุผลของคำตอบที่สำคัญคือไม่มีเงิน ไม่มีค่ารถ เพราะต้องออกไปเรียนในอำเภอ ค่าอาหาร ค่าชุดนักเรียน ซึ่งทั้งๆที่รัฐบาลออกให้แล้ว ชาวบ้านก็ยังบอกว่าไม่พอ สรุปออกมาว่า ให้ออกจากโรงเรียนแล้วมาช่วยทำงานหาเงิน ฟังแล้วเหนื่อยใจแทนอนาคตของประเทศไทยจริงๆ นี่คือจุดๆเดียว หมู่บ้านเดียวที่มีประชากรไม่ถึง 300 ครอบครัว และไม่มีใครใส่ใจหรือเหลียวไปมองปัญหานี้ หมู่บ้านแบบนี้ ข้นแค้นอย่างนี้ ครูว่ายังมีอีกมากในเมืองไทย และตราบใด ที่หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องไม่เข้าไปสอดส่องดู หรือเอาใจใส่อย่างแท้จริง อนาคตของเมืองไทยคงจะประคองตัวไปแบบนี้ตราบนานเท่านาน
ปัญหาที่ครูพูดออกมาใช่ว่าจะเป็นความผิดของใครๆ แต่เป็นความโชคร้ายของเด็กๆ ที่เกิดมาอยู่ในที่อย่างนั้น สังคมแบบนั้น ค่านิยมแบบนั้น ครูได้เข้าไปดูสินค้าในร้านค้าซึ่งมีอยู่ไม่กี่ร้าน สินค้าหลักที่ขายเป็นหลักคือ เหล้าขาว เบียร์ บุหรี่ เครื่องดื่มบำรุงกำลัง ขายดี.....นั่นคือเหตุผลอย่างหนึ่งของการบั่นทอนค่าเล่าเรียนของเด็ก ผู้ปกครองซึ่งเป็นคนหารายได้เข้าครอบครัว ตกอยู่ในอบายมุข สิ่งเสพติดอย่างนี้เสียแล้ว จะมีอะไรเหลือไว้ให้กับอนาคตของลูกๆ....ครูก็ได้แต่ปลงอนิจจังค่ะ แต่ที่สำคัญคือเรามีหมู่บ้านแบบนี้อีกซักเท่าไหร่ในเมืองไทย
ภาพ// http://movie.mediathai.net/detailShow.php?mid=1185
Labels: การศึกษา, เด็กดีขยันเรียน, ทั่วไป ตามใจคิด