รอบรั้ว วัดนาหลวง
Sunday, July 15, 2007
วัดแต่ละวัดอาจมีชื่อเรียกหลายๆชื่อ เช่นวัดแจ้ง นั่นก็คือวัดอรุณราชวราราม, วัดลิงขบ เป็นวัดบวรมงคล วัดที่มีชื่ออย่างนี้คือเป็นวัดที่ชาวบ้านรู้จักชื่อหนึ่ง แต่ทางการก็มีอีกชื่อหนึ่งไว้เรียกเป็นทางการ วัดที่อุดรก็มีมีอยู่วัดหนึ่ง ที่มีชื่อเรียกต่างๆกัน หลายชื่อ ซึ่งเรียกขานกันอยู่ถึง 4 ชื่อ คือวัดภูย่าอู่ หรือวัดนาหลวง หรือวัดอภิญญาเทสิตธรรม หรือบางคนอาจเรียกว่าวัดหลวงพ่อทองใบ ซึ่งก็เหมือนๆกันกับเรียกวัดหลวงปู่ขาวแทนชื่อวัดถ้ำกลองเพล
วันนี้จะมาเล่าเรื่องวัด 4 ชื่อคือวัดนาหลวง ว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีใครเป็นคนที่ดูแลและปกครอง ที่วัดนี้มีประธานสงฆ์ คือพระภาวนาวิสุทธาจารย์ ประธานสงฆ์ วัดนาหลวง ( อภิญญาเทสิตธรรม )
มีเจ้าอาวาส พระครูภาวนาธรรมภินันท์ เจ้าอาวาสวัดนาหลวง ( อภิญญาเทสิตธรรม )
มีรองเจ้าอาวาส พระมหาสำรี ธัมมจาโร รองเจ้าอาวาสวัดนาหลวง ( อภิญญาเทสิตธรรม ) ทั้ง 3 รูปช่วยกันดูแลวัดจนกระทั่งมีศิษยานุศิษย์เข้ามาฝึกอบรมแทบทั้งภูมิภาคค่ะ ส่วนที่ตั้งของวัดนาหลวง ( อภิญญาเทสิตธรรม ) ตั้งอยู่บนยอดเขาภูย่าอู่ใกล้หมู่บ้านนาหลวง อยู่ในเขตตำบลคำด้วง อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานีห่างจากตัวอำเภอบ้านผือไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 45 กิโลเมตร ห่างจากตัวเมืองอุดรธานีประมาณ 100 กิโลเมตรค่ะ
มีเจ้าอาวาส พระครูภาวนาธรรมภินันท์ เจ้าอาวาสวัดนาหลวง ( อภิญญาเทสิตธรรม )
มีรองเจ้าอาวาส พระมหาสำรี ธัมมจาโร รองเจ้าอาวาสวัดนาหลวง ( อภิญญาเทสิตธรรม ) ทั้ง 3 รูปช่วยกันดูแลวัดจนกระทั่งมีศิษยานุศิษย์เข้ามาฝึกอบรมแทบทั้งภูมิภาคค่ะ ส่วนที่ตั้งของวัดนาหลวง ( อภิญญาเทสิตธรรม ) ตั้งอยู่บนยอดเขาภูย่าอู่ใกล้หมู่บ้านนาหลวง อยู่ในเขตตำบลคำด้วง อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานีห่างจากตัวอำเภอบ้านผือไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 45 กิโลเมตร ห่างจากตัวเมืองอุดรธานีประมาณ 100 กิโลเมตรค่ะ
ประวัติการก่อตั้ง
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2529 โดยการนำของหลวงพ่อทองใบ ปภัสสโร พร้อมด้วยพระภิกษุอีก 5 รูป สามเณร 2 รูป ได้เลือกปักกลดใต้ร่มไทรคู่บนภูย่าอู่มีศรัทธาสาธุชนชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงพร้อมทั้งโยมอุปัฏฐากได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างกุฏิชั่วคราวขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกตามอัตภาพ
หลวงพ่อทองใบ ปภัสสโร เป็นพระภิกษุที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีจริยธรรมงดงามสม่ำเสมอเหมาะสมแก่สมณสารูป มีความแน่วแน่มุ่งมั่นเสียสละเผยแผ่เมตตาธรรมต่อมหาชนไม่มีประมาณทำให้ศิษยานุศิษย์เลื่อมใสศรัทธาเพิ่มมากอย่างกว้างขวาง บุคคลเหล่านั้นได้ร่วมใจกันบริจาคทุนทรัพย์จัดสร้างเสนาสนะเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นภายในวัดขึ้น แต่สถานภาพยังคงเป็นสำนักปฏิบัติธรรม แม้กระนั้นในแต่ละปีมีพระภิกษุเข้าอยู่จำพรรษากว่าร้อยรูปซึ่งล้วนมีความเคร่งครัดพากเพียรทั้งด้านสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน หลวงพ่อทองใบ ปภัสสโร ได้ตั้งชื่อสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ว่าวัดนาหลวงอภิญญาเทสิตธรรมและเนื่องจากตั้งอยู่บนภูย่าอู่คนทั่วไปจึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าวัดภูย่าอู่เป็นชื่อที่ผู้คนทั่วไปเรียกกันติดปากเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2543 กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศให้เป็นวัดโดยสมบูรณ์ มีชื่อว่า “วัดนาหลวง”
เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2544 สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดได้ประกาศแต่งตั้งวัดนาหลวงให้เป็นสำนักวิปัสสนาธุระประจำจังหวัดอุดรธานี โดยมี พระภาวนาวิสุทธาจารย์เป็นเจ้าสำนัก ทำหน้าที่เผยแผ่ธรรมให้แก่พระสงฆ์ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนในเขตจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียงให้ได้รับประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่น และประโยชน์อย่างยิ่งเพื่อเกื้อกูลการธำรงส่งเสริมสืบทอดคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2529 โดยการนำของหลวงพ่อทองใบ ปภัสสโร พร้อมด้วยพระภิกษุอีก 5 รูป สามเณร 2 รูป ได้เลือกปักกลดใต้ร่มไทรคู่บนภูย่าอู่มีศรัทธาสาธุชนชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงพร้อมทั้งโยมอุปัฏฐากได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างกุฏิชั่วคราวขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกตามอัตภาพ
หลวงพ่อทองใบ ปภัสสโร เป็นพระภิกษุที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีจริยธรรมงดงามสม่ำเสมอเหมาะสมแก่สมณสารูป มีความแน่วแน่มุ่งมั่นเสียสละเผยแผ่เมตตาธรรมต่อมหาชนไม่มีประมาณทำให้ศิษยานุศิษย์เลื่อมใสศรัทธาเพิ่มมากอย่างกว้างขวาง บุคคลเหล่านั้นได้ร่วมใจกันบริจาคทุนทรัพย์จัดสร้างเสนาสนะเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นภายในวัดขึ้น แต่สถานภาพยังคงเป็นสำนักปฏิบัติธรรม แม้กระนั้นในแต่ละปีมีพระภิกษุเข้าอยู่จำพรรษากว่าร้อยรูปซึ่งล้วนมีความเคร่งครัดพากเพียรทั้งด้านสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน หลวงพ่อทองใบ ปภัสสโร ได้ตั้งชื่อสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ว่าวัดนาหลวงอภิญญาเทสิตธรรมและเนื่องจากตั้งอยู่บนภูย่าอู่คนทั่วไปจึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าวัดภูย่าอู่เป็นชื่อที่ผู้คนทั่วไปเรียกกันติดปากเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2543 กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศให้เป็นวัดโดยสมบูรณ์ มีชื่อว่า “วัดนาหลวง”
เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2544 สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดได้ประกาศแต่งตั้งวัดนาหลวงให้เป็นสำนักวิปัสสนาธุระประจำจังหวัดอุดรธานี โดยมี พระภาวนาวิสุทธาจารย์เป็นเจ้าสำนัก ทำหน้าที่เผยแผ่ธรรมให้แก่พระสงฆ์ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนในเขตจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียงให้ได้รับประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่น และประโยชน์อย่างยิ่งเพื่อเกื้อกูลการธำรงส่งเสริมสืบทอดคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป
นี่คือประวัติความเป็นมาของวัดโดยย่อค่ะ ถ้าใครคิดว่ามีเวลาก็ควรจะหาโอกาสไปฟังเทศน์ฟังธรรมจากหลวงพ่อ ซึ่งจะเทศนาสั่งสอนในทุกวันเสาร์ที่ 2 ของทุกเดือนค่ะ กิจกรรมในวันนั้นก็จะมีเป็นช่วงเวลาดังนี้
08.00 น. ทำบุญถวายสังฆทาน
09.00 น. พระสงฆ์ออกรับบิณฑบาต
10.00 น. ญาติโยมรับประทานอาหารร่วมกัน
11.00 น. รวมกันที่ศาลาธรรม
12.00 น. อาราธนาธรรม ฟังธรรม
13.00 น. ถวายไทยธรรม รับพร
Posted by
ครูพเยาว์
at
11:39 AM
Labels: วัดอภิญญาเทสิตธรรม