รอบรั้ว พุทธศาสนา การทำจิตให้บริสุทธิ
Thursday, August 2, 2007
ในการดำเนินชีวิตของเรา จะต้องประสบกับสิ่งที่เราพึงพอใจ และไม่พึงพอใจ ดังนั้น เมื่อประสบกับสิ่งที่ไม่พึงพอใจ จึงต้องใช้คุณธรรม"ขันติ"เป็นเครื่องระงับ เช่น อดทนต่อความเจ็บป่วยทางกาย อดทนต่อสภาพอากาศ อดทนต่อความไม่พึงพอใจต่างๆ อดทนต่อสิ่งยั่วยวน
เมื่อเราละเว้นความชั่ว ทำแต่ความดีแล้ว สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งตามพุทธโอวาท 3 ได้แก่ "การทำจิตให้บริสุทธิ" ซึ่งเป็นการฝึกจิตเพื่อให้เกิดปัญญาให้รู้แจ้งในสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง
ร่างกายของคนเราประกอบด้วย 2 ส่วน คือ กาย และจิต การที่จะทำให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง เราต้องรู้จักดูแลรักษาสุขภาพให้ถูกวิธี เช่น กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ส่วนจิตของเรา ก็ต้องรู้จักดูแลให้ดีเช่นเดียวกัน วิธีดูแลจิต ตามหลักพระพุทธศาสนา เรียกว่า "การบริหารจิตและเจริญปัญญา" ซึ่งต่างกับการบริหารกาย เพราะการบริหารกายต้องให้ร่างกายเคลื่อนไหว เพื่อให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ แข็งแรง ส่วนการบริหารจิต จะต้องควบคุมจิตให้ตั้งมั่น หรือจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนเกิดสมาธิ คือไม่ให้จิตคิดวิ่งไปโน่นไปนี่ ให้อยู่กับที่ อยู่กับเราตลอดเวลา
เมื่อจิตมีสมาธิ จะทำให้เกิดพลังและเกิดปัญญาหยั่งรู้ ทำให้จิตบริสุทธิ์ สะอาด สงบ
ในทางพระพุทธศาสนาถือว่า การฝึกอบรมทางจิต สำคัญที่สุด ที่จะทำให้ดับทุกข์ได้โดยสิ้นเชิง โดยมีการฝึกอบรมทางกายเป็นพื้นฐาน เกื้อกูลให้เกิดการฝึกอบรมทางจิตได้ง่ายขึ้น