Daisypath Anniversary tickers

รอบรั้ว หมู่มาร

Thursday, October 29, 2009


เคยสังเกตบ้างไหมคะ ว่าบางครั้งที่เราจะทำอะไร มักมีสิ่งหนึ่งสิ่งใด หรืออะไรสักอย่างมาขัดขวาง ไม่ให้เราทำได้สำเร็จ แล้วเราก็บอกว่า แหม มันช่างมีมารมาขวางเสียจริงๆ ในทางกลับกัน ถ้าเราจะทำอะไรที่มันผิด ก็จะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ด้วยเหมือนกัน คือมาขวางไม่ให้เราทำได้สำเร็จ หรืออย่างน้อยก็ทำให้เราได้คิด ว่าสิ่งที่เราจะทำไปนั้น มันไม่ถูกต้อง อย่างนี้เราบอกว่า ผีบ้านผีเรือนเข้ามาขวางหรือเตือน หรือถ้าเกี่ยวกับความเสียหายของชาติแล้วละก็ต้องพูดว่า พระสยามเทวาธิราชเข้าไปขัดขวาง เหตุการณ์แบบนี้เราเห็นบ่อยค่ะ
ทีนี้มารที่ว่ามาตอนต้น ในคติของเรามาเป็นหมู่เลย เรียกว่าหมู่มารค่ะ มารตัวสำคัญ ที่เราต้องต่อสู้กันอย่างจริงจังคือ กิเลสมาร มารนี้มาหาเราอยู่ทุกวี่วัน ไม่เคยหยุด เป็นกระแสของความโลภ โกรธ หลง และเป็นตัวที่จับสรรพสัตว์ทั้งหลายให้วนเวียนในภพ 3 พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้เราเอาชนะกิเลสนี้เป็นสำคัญ เมื่อชนะแล้วก็สามารถตัดกระแสกิเลสและบรรลุพระนิพพานได้ ขันธมาร คือ ขันธ์ 5 หรือก็คือ ร่างกายของสัตว์โลกที่เป็นภาระอันหนัก ต้องคอยบำรุง ดูแล รักษา ทำความสะอาด มีความเสื่อมเป็นปกติ ที่เราต้องมานวดขา นวดคอ ไปหาหมอนั่นเพราะขันธมารมาเยี่ยมเราค่ะ อภิสังขารมาร คือ วิบากหรือผลของกรรมที่เราจะต้องก้มหน้าก้มตาชดใช้ ถ้าไปทำผิดพลาด ก่อบาปกรรมขึ้น โดยมีกิเลสมารบีบคั้นให้สรรพสัตว์ไปก่อกรรมขึ้น หรือ ก็คือ กิเลสมารบังคับ บีบคั้นให้สร้างกรรม และต้องมารับผลของวิบากกรรม ซึ่งก็คือ อภิสังขารมาร นี่ถ้าเราเอาชนะกิเลสมารตั้งแต่ต้น มารนี้ก็จะไม่มาเยี่ยมกรายเราได้เลยละค่ะ ทีนี้มารที่ทุกคนกลัว และท่านพุทธทาสบอกนักบอกหนาว่าเตรียมตัวเตรียมใจกันตั้งแต่เนิ่นๆ อย่าไปกลัวนั่นคือ มัจจุมาร คือ ความตาย ที่ครอบคลุมสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ต้องถอดกายตายลง แล้วไปแสวงหาที่เกิดใหม่ตามกำลังแห่งกรรม ซึ่งก็คือ ผลของอภิสังขารมารนั่นเอง เมื่อเกิดใหม่แล้วก็ปิดบังภพชาติ ไม่ให้สรรพสัตว์ทั้งหลายรู้ความจริงของชีวิต ไม่ให้รู้เรื่องกฎแห่งกรรม แล้วเมื่อมัจจุมารทำให้มนุษย์ตายได้แล้ว ก็เอาไปตรึงไว้ที่อบายภูมิบ้าง สวรรค์และพรหมโลกบ้าง เพื่อให้เสียเวลาในการสร้างบารมีให้ ติดใน รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส อันเป็นทิพย์ ทำให้ไม่มีความคิดหาทางเลิกเกิด และเทวบุตรมาร คือ มารที่มีตัวตน จริงๆ มีตัวเป็นๆ เช่น มารที่เคยมาทูลให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพาน หรือ แม้แต่เทวดาบางพวกที่ถูกมิจฉาครอบงำ หรือ ก็คือโดนกิเลสมารบีบคั้นนั้นเองให้มีความคิดผิดเพี้ยนไป แล้วคอยขวางบุคคลอื่นไม่ให้ทำความดี ว่ากันว่าพระยามารนี่เคยต่อสู้กับเจ้าชายสิทธัตถะมาหลายครั้ง เช่นออกมาห้ามไม่ให้ออกบวช ส่งธิดามารสวยๆออกมาขัดขวาง และเมื่อเห็นว่าพระพุทธเจ้าจะสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วก็ยกมาทั้งกองทัพทีเดียว เพื่อมาขัดขวาง การต่อสู้ของพระยามารกับพระพุทธเจ้านั้นน่าตื่นเต้นค่ะ ถ้าเรามานึกเอาแบบในทางโลก คือการต่อสู้ที่เอาจริงเอาจัง ถึงตาย ถ้าเกิดแพ้ขึ้นมา และผลสุดท้ายพระยามารก็พ่ายแพ้ไป เมื่อพระแม่ธรณีออกมาช่วยพระพุทธเจ้าเอาไว้โดยการบีบมวยผม เพื่อบอกกับพระยามารว่า บัลลังก์ที่พระพุทธเจ้าประทับนั้น เป็นของพระพุทธเจ้าโดยแท้ และน้ำที่ไหลออกมาจากมวยผมนั้น มาจากการหยาดน้ำทุกครั้งที่ พระพุทธองค์ ทรงกระทำความดี ตั้งแต่ครั้นอดีตหลายแสนหมื่นล้านภพชาติ พระยามารตนนั้นคือ พระวสวัตตีมาร หรือพระสหัสพาหุ หรือ พระยามาราธิราช ที่เรียกกันทั่วไปว่า พระยามาร บนสวรรค์เรียกท่านว่า ท้าวมาลัยค่ะ
เราเองก็เอาชนะมารได้เหมือนกันค่ะ นั่งสมาธิทับมารเอาไว้ เดินจงกรมเหยียบมารเอาไว้ไม่ให้ขึ้นมาตีเสมอเรา หายใจเข้าออกรดต้นคอมารเอาไว้ บอกกับมารว่าฉันรู้ทันแกนะ แค่นี้มารมันก็ได้แต่ดูเราอยู่ห่างๆแล้วละค่ะ จะสรุปได้ง่ายๆ ก็คือให้รามี ”สติ”นั่นเองค่ะ